ผบก.พฐก. ร่วมผู้บังคับการ รพ.ตำรวจแถลงคืบหน้าการพิสูจน์เอกลักษณ์ผู้เสียชีวิตเหตุตึก สตง.ถล่ม ยืนยันตัวตนได้แล้ว 33 ราย ส่งคืนศพให้ญาติไปประกอบพิธีทางศาสนา
วันนี้ (17 เม.ย.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.พฐก.และโฆษกสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ร่วมแถลงข่าวกับ พล.ต.ต.วิรุฬห์ ศุภสิงห์ศิริปรีชา ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ถึงความคืบหน้าการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล เพื่อยืนยันตัวตนผู้เสียชีวิตในอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม และส่งคืนศพให้ญาติไปประกอบพิธีทางศาสนา
พล.ต.ต.วาที เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลผู้สูญหายและตัวอย่าง DNA จากญาติ จำนวน 97 ราย เพื่อเปรียบเทียบกับศพที่ส่งมายังสถาบันนิติเวช โดยใช้วิธีตรวจสอบ ได้แก่ ลายนิ้วมือ ข้อมูลทางทันตกรรม DNA และลักษณะทางกายภาพต่างๆ
ซึ่งระหว่างวันที่ 29 มี.ค. ถึง 17 เม.ย.ที่ผ่านมา มีศพที่เข้าสู่กระบวนการพิสูจน์เอกลักษณ์แล้วจำนวน 42 ราย รวมถึงชิ้นส่วนศพอีกเป็นจำนวนมาก ขณะนี้สามารถยืนยันตัวบุคคลได้แล้ว 33 ราย และได้แจ้งให้ญาติเข้ารับศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ศพที่สามารถคาดการณ์อัตลักษณ์ได้เบื้องต้นแต่ยังไม่สมบูรณ์ ยังคงต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ชิ้นส่วนศพเพิ่มเติม เพื่อประกอบร่างให้ครบถ้วนก่อนจะส่งคืนแก่ญาติอย่างถูกต้องตามหลักการนิติวิทยาศาสตร์
สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจยืนยันว่า จะเร่งดำเนินการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อสนับสนุนกระบวนการสืบสวนสอบสวน และให้ญาติผู้เสียชีวิตสามารถจัดพิธีกรรมทางศาสนาได้โดยไม่ล่าช้า
ขณะเดียวกันมีญาติผู้เสียชีวิตเดินทางมารับศพวันนี้ 2 ราย โดยหนึ่งในนั้น คือ นางบุญส่ง มวลสุข อายุ 73 ปี แม่ของนายวิทยา สิทธิ์ศรี อายุ 36 ปี ผู้เสียชีวิต พร้อมบอกว่าลูกชายมาทำงานที่กทม.และอาศัยอยู่ที่นี่นานหลายปี ตนเองอยู่ที่จ.ศรีสะเกษ จะมาหานานๆ ครั้ง โดยเจอกันล่าสุดปีใหม่ตอนปี 2567
นางบุญส่ง กล่าวว่า ลูกทำงานที่บริษัทดังกล่าวได้แค่ 1 เดือน ตอนแรกครอบครัวลูกหลานไม่ยอมบอก จนคนข้างบ้านมาบอกถึงจะรู้ว่าลูกติดอยู่ในซากตึก ตัวเองกินไม่ได้นอนไม่หลับต้องมาลุ้นว่าลูกชายจะได้ออกมาวันไหน จนกระทั่งวันที่ 14 เม.ย.ซึ่งเป็นวันเกิดของลูกชาย มีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่าเจอร่างลูกชายติดอยู่ภายในซากตึกพอดี โดยยอมรับว่าเสียใจ วันนี้จะพาลูกชายกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดโพธินิมิตรสถิตมหาสีมาราม ย่านบางยี่เรือ ก่อนจะนำกระดูกไปเก็บเอาไว้ที่บ้านเกิดจ.ศรีสะเกษ