ตม.ปทุมฯ ร่วมกับ กอ.รมน. สน.พุทธ บุกจับพระเขมรสายมูชื่อดัง อ้างเป็นลูกศิษย์หลวงปู่สรวง หลังแอบลักลอบบวชพระมานานกว่า 30 ปี พบพฤติกรรมแยบยลใช้บัตรปลอม
วันนี้ (13 เม.ย.) เจ้าหน้าที่สำนักพุทธจังหวัดปทุมธานี ร่วมกับ กอ.รมน.จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ ตม.ปทุมธานี และ ตร.สภ.สามโคก ได้เดินทางไปตรวจสอบ พระสงฆ์ที่วัดแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีพระสงฆ์รูปหนึ่ง ที่มาจากที่อื่น มาจำวัดที่วัดแห่งนี้ โดยเชื่อว่าอาจจะเป็นพระปลอมและที่สำคัญไม่ใช่คนไทย นอกจากนี้ข้อมูลได้รับมายังทราบว่าพระรูปนี้เคยมีพฤติกรรมในการชอบทำพิธีกรรมแบบสายมู ปลุกเสก ดูดวงและทำพิธีขับไล่ผีให้กับชาวบ้าน
โดยอ้างว่าคนที่มีอาการเพราะโดนคุณไสยมา รวมทั้งยังเคยมีการแบอ้างว่ามีเครื่องรางของขลังที่ตัวเองทำขึ้นมา และปลุกเสกเพราะเป็นลูกศิษย์หลวงปู่สรวงจนทำให้มีลูกศิษลูกหาจำนวนมาก พร้อมกับยังมี กลุ่มลูกศิษย์ที่ติดตามมามีการนำภาพการทำพิธีต่างๆ ที่พระรูปนี้กำลังเดินตรวจสถานที่ก่อสร้าง ตามวัดต่างๆที่กำลังจะ บูรณะปฏิสังขรณ์ โดยกล่าวอ้างว่า ตัวเองจะมา ทำพิธีต่างๆเพื่อหาเงินมาช่วยทางวัดที่กำลังจะ บูรณะ หรือปฏิสังขรณ์ สถานที่ต่างๆ แล้วลูกศิษย์ก็นำไปลงตามโซเชียลจนมีคนหลงเชื่อ
ซึ่งเมื่อทางเจ้าหน้าที่ ได้เข้าไปในวัดพบพระรูปดังกล่าวนั่งอยู่ที่ศาลา การเปรียญ เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามว่าท่านชื่อนามสกุลอะไร บวชมาจากไหน และมาอยู่ที่วัดแห่งนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ โดยพารูปดังกล่าว ได้บอกว่า อาตมาชื่อพระชล เดชพรมรัมย์ บวชมาจากจังหวัดสุรินทร์ แล้วเพิ่งมาอยู่วัดแห่งนี้เพียงวันเดียว เมื่อทางเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจสอบว่ามีใบสุทธิ และบัตรประชาชนหรือไม่ ซึ่งพระอ้างว่ามีแต่ไม่ได้เอามาอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้สอบถามและกำลังตรวจสอบไปยังวัดต้นสังกัด พระรูปดังกล่าวก็ได้ยอมรับว่า ไม่มี ใบสุทธิพระและไม่มีบัตรประชาชน พร้อมกับยังยอมรับว่าเป็นชาวเขมร และบวชมากว่า 30 ปีและบวชมาตั้งแต่เด็ก ก่อนที่จะลุกเข้ากุฎิไปนำพาสปอร์ตมาให้เจ้าหน้าที่ ตม.ดู ปรากฎว่าเป็นพาสปอร์ตระบุชื่อ นาย SOVAN CHHOEURT สัญชาติกัมพูชา อายุ 50 ปี โดยเดินทางเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2016 และยอมรับว่าไม่เคยถูกจับเวลาเดินทางกลับประเทศตนเอง ซึ่งการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่นั้น มีเจ้าคณะตำบล เจ้าอาวาส และพระเลขาเจ้าคณะอำเภอ ร่วมตรวจสอบและสอบถามพระรูปดังกล่าวอีกด้วย
หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ ตม.และทางเจ้าหน้าที่สำนักพุทธ ได้ชี้แจงให้กับพระรูปดังกล่าวทราบว่ามีความผิดเรื่องใดบ้างก่อนที่ทาง เจ้าคณะตำบลจะได้ทำการสึกพระรูปดังกล่าว ก่อนที่จะนำเสื้อและกางเกงมาให้พระชล สวมใส่ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ ตม.ปทุมธานี ก็ได้ควบคุมตัวนายชล ไปดำเนินการตามกฎหมายในข้อหา หลบหนีเข้าเมือง เพราะถือว่าเป็นการอยู่แบบ overstay พร้อมกับจะได้ควบคุมตัวนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.สามโคก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและจะมีการผลักดันกลับประเทศกัมพูชาต่อไป