xs
xsm
sm
md
lg

จำคุก 3 ปี 4 เดือน พี่ชาย"ชวน หลีกภัย"อดีตนายก อบจ.ตรัง ปมเช่าท่าเทียบเรือมิชอบ แต่ให้รอลงอาญา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ศาลอาญาคดีทุจริต ภาค 9 จำคุก "กิจ หลีกภัย อดีตนายก อบจ.ตรัง พี่ชาย "ชวน หลีกภัย" 3 ปี 4 เดือน และปรับ 68,000 บาท ปมทำสัญญาเช่าท่าเทียบเรือ อ.กันตัง จ.ตรัง โดยมิชอบ แต่รออาญาไว้ 2 ปี

วันนี้ (10 เม.ย.) ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 พิพากษาคดีที่อัยการสูงสุด ยื่นฟ้องนายกิจ หลีกภัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง (อบจ.) กรณีทุจริตเรื่องการเช่าท่าเทียบเรือนาเกลือ เพื่อใช้ประกอบกิจการท่าเรือเดินทะเล

คำฟ้องโจทก์ระบุว่า ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด ว่าการกระทำของนายกิจ หลีกภัย เมื่อครั้งตำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 และตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 กรณีทุจริตเกี่ยวกับการทำสัญญาเช่าท่าเทียบเรือและอาคารประกอบ ตำบลนาเกลือ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เพื่อใช้ประกอบกิจการท่าเรือเดินทะเล เนื่องจากจะต้องขออนุญาตต่อกรมเจ้าท่า และต้องมีอัตราค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ใช้บริการและค่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการลำเลียงขนถ่ายสินค้า รวมทั้งไม่ได้เสนอขอมติจากสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง

ไม่ได้ขอความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และไม่ได้ดำเนินการโดยการประมูล ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการให้เอกชน กระทำกิจการขององค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2541 จนมีเหตุให้ไม่สามารถเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมที่ออกใบแจ้งหนี้ไว้ก่อนตราข้อบัญญัติ และไม่สามารถนำเงินค่าตอบแทนในส่วนของการบันทึกข้อตกลงกับบริษัท ชูไก จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นรายได้ของ อบจ.ได้ ขณะเดียวกันยังให้บริษัทเอกชนดำเนินการให้บริการเครื่องจักรในแต่ละวันใช้เครื่องจักรประมาณ 5-8 คัน และเครื่องจักรดังกล่าวจะจอดประจำอยู่ในพื้นที่ของท่าเทียบเรือบ้านนาเกลือโดยตลอด ไม่มีการนำเครื่องจักรเข้า-ออก แต่อย่างใด


ปรากฏว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรังได้เก็บเพียงค่าธรรมเนียมการใช้บริการจากบริษัท ชูไก จำกัด (มหาชน) เพียงค่าบริการรถยกตู้สินค้าและค่าบริการรถปั้นจั่น โดยที่ไม่ได้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในส่วนของเครื่องจักรกลที่บริษัทเอกชนดังกล่าว นำมาไว้ในพื้นที่เขตท่าเรือเกิน 24 ชั่วโมงนั้น

ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 พิจารณาแล้วเห็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ,90 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราบการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 จึงพิพากษาให้จำเลยจำคุก 5 ปีและปรับ 120,000 บาท

การสืบพยานของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน และปรับ 68,000 บาท โทษจำคุกรอไว้ 2 ปี


 สำหรับท่าเรือนาเกลือก่อสร้างโดยกรมเจ้าท่า งบกว่า 206 ล้านบาท บริหารงานโดย อบจ.ตรัง ที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ บริเวณหมู่ 2 ต.เกลือ อ.กันตัง ที่ อบจ.ตรังในยุคของ นายกิจ ดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ตรัง เป็นฝ่ายออกงบประมาณสำหรับการจัดซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างท่าเรือพาณิชย์ขนถ่ายสินค้า โดยท่าเทียบเรือมีความยาว 185 เมตร ความกว้าง 29 เมตร รองรับเรือขนาด 4,000 ตันกรอส จอดได้ครั้งละ 2 ลำ

ซึ่ง อบจ.ตรัง ได้เช่าอาคารราชพัสดุ ตั้งอยู่ ต.นาเกลือ อ.กันตัง จ.ตรัง กับกระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์ จำนวน 7 รายการ ประกอบด้วย ท่าเทียบเรือ อาคารคลังสินค้า อาคารซ่อมบำรุง อาคารด่านตรวจ 2 ป้อมยาม อาคารสำนักงาน และอาคารห้องเครื่อง เพื่อดำเนินกิจการสนับสนุนการส่งออกสินค้า เช่น ข้าวโพดแห้ง มะพร้าวแห้ง ปูนซีเมนต์ ไม้ยางพาราแปรรูป แร่ ยิปซัม บุหรี่ เป็นต้น โดย อบจ.ตรังได้เข้าไปทำสัญญาเช่าปีละ 1,000,000 บาท เพื่อดำเนินการดูแลและบริหารจัดการ โดยเริ่มเช่าตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 และสิ้นสุดสัญญาเช่าในเดือนกันยายน 2561 และมีการขอต่อสัญญาเช่าอีก 7 ปี 3 เดือน (1 ตุลาคม 2561-31 ธันวาคม 2568)

รายได้หลักมาจากการเก็บค่าบริการท่าเรือ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาการบริหารท่าเรือนาเกลือขาดทุนทุกปี โดยปี 2560 ตั้งแต่เดือนสิงหาคม-ธันวาคม 2560 ขาดทุนถึง 4,120,000 บาท ทั้งนี้ในปัจจุบันยังคงอยู่ในสภาพเงียบเหงา มีเรือสินค้าเข้าออกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้ นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นายกฯ อบจ.ตรัง คนปัจจุบัน ได้มีนโยบายฟื้นฟูการดำเนินการของท่าเรือนาเกลืออีกครั้ง โดยอยู่ระหว่างขั้นตอนศึกษาวางแผนของคณะที่ปรึกษา

สำหรับเรื่องนี้ย้อนกลับไปเมื่อปี 2561 ดาบตำรวจชัยวัฒน์ เส้งนุ้ย รองประธานสภา อบจ.ตรัง ในขณะนั้น ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามจัดเก็บรายได้และทรัพย์สินของ อบจ.ตรัง เป็นผู้ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ ได้ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง ให้ทำการสืบสวนสอบสวน พร้อมตั้งข้อสงสัยการจัดซื้อที่ดินบางส่วนจากผู้ขายเดิมอาจอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบงด้วยหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น