MGR Online - "ดีเอสไอ" ส่งสำนวนอัยการคดีโรงงานขยะอิเล็กทรอนิกส์ จ.ปราจีนบุรี ดำเนินคดี 2 ผู้บริหาร เอาผิดหลายข้อหา เตรียมขยายผลโรงงานอื่น
วันนี้ (9 เม.ย.) นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดี นายพิสิษฐ์ พูนเจริญชัย และ นายสมชาย แซ่ลี้ อดีต 2 ผู้บริหาร บริษัท ที แอนด์ ที เวสท์ แมเนจเม้นท์ จำกัด ตั้งอยู่ที่ ต.ศรีมหาโพธิ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ เป็นคดีพิเศษที่ 28/2568 ว่า พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ นำส่งสำนวนอัยการ พร้อมผู้ต้องหา โดยมีความเห็นทางคดีเห็นควร "สั่งฟ้อง" บริษัทดังกล่าวกับพวก ในความผิดฐาน "ร่วมกันครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 23 วรรคหนึ่ง พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 อันมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 73 แห่ง พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ประกอบมาตรา 35 (3) พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 และมาตรา 54 (3) แห่ง พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 และมาตรา 152" เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา
นายอังศุเกติ์ กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการเรียกผู้ต้องหาทั้ง 2 รายมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยให้การกับดีเอสไอเลย พร้อมแจ้งข้อหาเพิ่ม เนื่องจากพบว่ามีการเคลื่อนย้ายของกลางออกมาจากสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนเพราะมีการถ่ายรูปของกลางในตำแหน่งที่กำหนดไว้ รวมทั้งปริมาณน้ำหนักของกลาง ทำให้รู้ว่ามีการเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่จึงมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม เป็นการเคลื่อนย้ายโดยไม่รับอนุญาต
"ส่วนการเข้าตรวจค้นโรงงานที่ จ. ปทุมธานี และ จ.สมุทรสาคร ก่อนหน้านี้นั้น ได้มีการพูดคุยกับ กระทรวงอุตสาหกรรม เนื่องจากพบโรงงานประเภทลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนบ่อยครั้งในช่วงหลัง ซึ่งอาจจะต้องมีการประชุมกันเพื่อกำหนดกรอบร่วมกันทำงาน ทั้งนี้ ถ้าหากพบกรณีใดเข้าข่ายคดีพิเศษตามที่กฎหมายหมายกำหนดไว้ กระทรวงอุตสาหกรรมต้องรีบสรุปข้อมูลที่ตรวจเจอส่งมาให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษทันที เพื่อให้อธิบดีพิจารณาว่าควรเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ต่อไป"
