xs
xsm
sm
md
lg

“คะน้า ริญญารัตน์” แจ้งจับไฮโซเก๊ หลอกจ่าย 9.8 หมื่น อ้างเป็นค่าแชมเปญให้นายกฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“กัน จอมพลัง” พา “คะน้า ริญญารัตน์” แจ้งความตำรวจไซเบอร์เอาผิดหนุ่มไฮโซเก๊โลกสองใบ ฐานฉ้อโกง หลอกจ่ายเงินค่าแชมเปญให้นายก 9.8 หมื่นบาท

วันนี้ (7 เม.ย.) ที่ กองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พร้อมด้วย น.ส.ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ หรือ คะน้า นักแสดงนางแบบช่องดัง เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายร้อน (นามสมมติ) ฐานฉ้อโกง กรณีหลอกให้จ่ายค่าแชมเปญให้กับนายกรัฐมนตรี จำนวน 98,000 บาท

น.ส.ริญญารัตน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อปีที่ผ่านมา ได้รู้จักชายคนดังกล่าวผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ ฝ่ายชายดูน่าเชื่อถือและเข้ามาช่วยเหลือ โดยพูดคุยกันถูกคอ ฝ่ายชายอ้างบอกว่าทำงานกับรัฐบาล เป็นที่ปรึกษาของนายกฯ อีกทั้งอ้างว่าทำงานกับเบื้องสูง พร้อมโชว์นามบัตร และเมื่อตรวจสอบในอินเทอร์เน็ตก็ไม่พบชื่อ แต่ฝ่ายชายแถว่าเป็นตำแหน่งพิเศษและเลยไม่มีชื่อในอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ ระหว่างที่พูดคุยชายคนดังกล่าวได้บอกว่าเรามีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเงินเทา ซึ่งมาจากการที่เราทำธุรกิจร่วมกับแฟนเก่า เขาบอกว่า แฟนเก่าเรามีการฟอกเงิน แล้วมันจะโดนอายัดทรัพย์ เพราะถือหุ้นร่วมกัน เราก็กลัว แต่ชายคนดังกล่าวได้บอกว่าจะช่วยเหลือทางคดี ก่อนขอให้เราโอนเงินให้ 98,000 บาท เป็นค่าของขวัญให้กับท่านนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมา ยังเคยพาไปเจอผู้ใหญ่และคนใหญ่คนโตหลายคนด้วย ซึ่งเราไม่แน่ใจผู้ใหญ่และคนใหญ่คนโตก็โดนหลอกด้วยหรือไม่ 

นอกจากนี้ ยังมีพฤติกรรมแต่งชุดข้าราชการมารับ มีรถนำขบวนมาใช้ เพื่อสร้างความเชื่อถือ จากนั้นพอคุยกันมาฝ่ายชายก็ขอแต่งงาน และมีใบแอบอ้างสมรสพระราชทานมา โดยเขียนเป็นกำหนดการออกมา ทำให้เราไม่กล้าขัด ก่อนที่ฝ่ายชายให้สินสอด ทองคำหนัก 50 บาท และเครื่องเพชร โดยเราได้เจอแค่ญาติพี่น้องฝ่ายชาย แต่ยังไม่เจอพ่อแม่ของฝ่ายชาย ต่อมาทราบภายหลัง ฝ่ายชายมีภรรยาอยู่แล้ว อีกทั้งสินสอดก็พบว่าเป็นทองปลอม จึงประกาศในไอจีทันที

ด้าน กัน จอมพลัง กล่าวว่า หลังจากที่ทราบข้อมูลจากดาราสาว พบว่า มีเรื่องการหลอกลวง ส่งข้อมูลอันเป็นเท็จผ่านแอปพลิเคชันไลน์ เช่น การสร้างแชตปลอม ที่มีการสนทนากับข้าราชการผู้ใหญ่ รวมถึงมีการแอบอ้างเบื้องสูง รวมถึงหลักฐาน โอนเงินค่าแชมเปญ 98,000 บาท ให้นายกรัฐมนตรี จึงพามาพบตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้ตรวจสอบว่ามีความผิดเข้าข่ายฉ้อโกงหรือไม่

ขณะที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ในเคสนี้ ผู้เสียหาย ได้ถูกหลอกให้โอนเงิน เพื่อจ่ายเป็นค่าของขวัญ แม้ภายหลังจะมีการคืนเงินแต่ความผิดได้สำเร็จแล้ว สามารถดำเนินการแจ้งความเอาผิดได้ ซึ่งกลอุบายต่างๆ คล้ายคลึงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นอกจากนี้ ตำรวจได้ตรวจสอบหลักฐานแชตในมือถือของผู้เสียหาย เป็นการแอบอ้างนำรูปภาพของตนไปใช้ลักษณะเหมือนกำลังคุยกับตนอยู่ ซึ่งในส่วนนี้ตนยืนยันว่าไม่ใช่แอกเคานต์ไลน์ของตน รูปภาพที่ใช้เป็นโปรไฟล์ก็ไม่ใช่ภาพ LINE ของตน ซึ่งเป็นการเซฟภาพจากเฟซบุ๊กส่วนตัวของตนไปแอบอ้างอีกที ดังนั้น ผู้ก่อเหตุจงใจที่จะสร้างหลักฐานชิ้นนี้ขึ้นมา เพื่อที่จะหลอกลวงผู้เสียหาย

อีกทั้งในส่วนนี้ตนเองก็ถือเป็นผู้เสียหายด้วยเช่นกัน หลังจากนี้ จะมีการตรวจสอบรายละเอียด เพื่อหาหลักฐานเอาผิดคนก่อเหตุเพิ่มเติม ร่วมทั้งผู้เสียหายรายอื่นๆ เบื้องต้น มีความผิดเข้าข่าย ข้อหาฉ้อโกง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ อยากฝากถึงประชาชน ว่า ถ้าหากเล่นแอปพลิเคชันหาคู่ จะต้องตรวจสอบให้รอบคอบอย่าเชื่อโดยง่าย โดยเฉพาะการแอบอ้าง ถึงข้าราชการผู้ใหญ่ในสังคม เพราะอาจจะเป็น มิจฉาชีพ ที่เอาข้อมูลเหล่านี้มาสร้างความน่าเชื่อถือ เพื่อหลอกประชาชน


กำลังโหลดความคิดเห็น