เจ้าของงาน “โคตรเปียก 2025” ชี้แจงยาว ปมวัยรุ่นยิงกันนอกร้าน – แจงเหตุหึงหวงหญิงคนกลาง ฉุดดรามาจนงานล่ม! – ลั่นคัดกรองเข้มทุกจุด แต่ปืนซุกในรถ ใครจะไปตรวจได้หมด – เตรียมฟ้องกลับทีมข่าวดังหลังถูกกล่าวหาว่าเป็น “ผู้มีอิทธิพล”
วันนี้ (6 เม.ย.) นายพลากร ลิ่มดุลย์ อายุ 56 ปี หรือพี่หมู
เจ้าของงานโคตรเปียก เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังเที่ยงคืน ซึ่งเป็นช่วงเวลาเลิกงานแล้ว ตนก็ยืนส่งลูกค้ากลับบ้าน แล้วมีลูกน้องโทรศัพท์มาแจ้งว่า มีคนชกต่อยกันที่ลานจอดรถด้านหน้า ซึ่งตรงจุดดังกล่าว ถือว่าเป็นคนละส่วนกัน แต่ตนก็อยากแสดงความรับผิดชอบ จึงรีบวิ่งไปกระโดดคว้าตัวผู้ต้องหา และตำรวจก็ พนักงานรักษาความปลอดภัยในร้านเข้ามาช่วยกันจับตัวไป สน.ลาดพร้าว
ส่วนปมเหตุที่แท้จริง ตนพอจะทราบข้อมูลมาอีกมุมหนึ่งว่า เพื่อนหญิงคนสนิทของผู้ต้องหาเคยเป็นแฟนเก่าของผู้เสียชีวิต บังเอิญมาเจอกันในร้าน จึงเกิดอาการหึงหวง และเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยของร้าน ตนยืนยันว่า ทางร้านมีการคัดกรองเป็นอย่างดี มีการตรวจอาวุธและยาเสพติดลูกค้าทุกคนก่อนเข้าร้าน แต่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นนอกเหนือสถานที่ของตน และเหตุการณ์ดังกล่าว ก็เกิดขึ้นนอกเหนือพื้นที่ของตน รวมทั้งผู้ต้องหาก็เก็บอาวุธปืนไว้ในรถซึ่งถ้าจะให้ตนไปตรวจรถลูกค้าทุกคนก็ไม่ใช่เรื่อง
ส่วนกรณีที่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยในร้านทำร้ายร่างกายจนศีรษะแตกนั้น พี่หมูชี้แจงว่า ตนเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่า ถ่ายทำไม ได้กี่บาท เพราะตนไม่อยากให้มีใครถ่ายคลิปเพราะจะทำให้ภาพลักษณ์ของทางร้านเสียหาย ซึ่งตนก็ มีปากเสียงเล็กน้อยกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยคนดังกล่าว เพราะพนักงานรักษาความปลอดภัยในร้านได้ยินแบบนั้น ก็เลยโมโหจึงเข้ามาเอาเรื่อง ตนก็เข้าไปห้าม และขอโทษขอโพยเจ้าหน้าที่กู้ภัย จนเคลียร์กันลงตัว ก็เลยไม่มีการแจ้งความ
โดยหลังจากนี้ตนมีแนวคิดว่า จะให้ลูกค้าใช้รถบริการโดยสารสาธารณะ มาลงที่ปากซอย แล้วทางร้านจะใช้รถสองแถวออกไปรับลูกค้าแทน
มีรายงานข่าวว่า วง “ไททศมิตร (Taitosmith)” ซึ่งมีคิวมาเล่นทีมงานในคืนนี้ ได้แจ้งกับทางเจ้าของงานว่า จะขอคืนเงินค่ามัดจำ และไม่มาเล่นให้ เพราะกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย
ล่าสุดจากที่เป็นประเด็นร้อนในโซเชียลมีเดีย ผู้จัดงาน “โคตรเปียก 2025” ตัดสินใจยกเลิกงาน คืนสุดท้ายในค่ำคืนนี้ โดย นายพลากร ลิ่มดุลย์ อายุ 56 ปี หรือ เฮียหมู เจ้าของงานโคตรเปียก บอกว่าใช้เวลาเวลานานกว่า 8 เดือน ในการจัดเตรียมงานครั้งนี้ ซึ่งงานคอนเสิร์ตแบบนี้จัดมาแล้ว 10 ปี ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งในการยกเลิกการจัดงานในวันนี้ ทำให้ได้รับความเสียหายเกือบ 2 ล้านบาท ได้แก่ ค่าจ้างศิลปิน ค่าอาหาร ค่าบอดี้การ์ดรักษาความปลอดภัย ค่าสตาฟทุกคนภายในงานกว่า 300 ชีวิต ต้องยกเลิกทั้งหมด โดยตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะว่าคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่จัดเต็มด้วยไฮไลท์ภายในงานทุกอย่าง จึงอยากจะบอกกับทีมข่าวทีมดังกล่าวว่า อย่าใช้อาชีพสื่อมวลชนมาทำลายประชาชน
โดยยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นผู้มีอิทธิพลตามที่กล่าวอ้าง ตนอยู่ที่นี่มากว่า 40 ปี ไม่เคยไปข่มขู่ใครทั้งนั้น ส่วนคำพูดในคลิปที่บอกว่า “จะยิงหัว” นั้น เป็นเพราะญาติโทรมาถามถึงเหตุการณ์วัยรุ่นยิงกันเมื่อคืนเป็นอย่างไรบ้าง ถามไถ่ ด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับขณะที่ตนกำลังพูดคุยกับทีมข่าวทีมข่าวดังกล่าวอยู่ด้วย จึงพูดกับปลายสาย ด้วยภาษาท้องถิ่นภาษาใต้ว่า ถ้าเคลียร์กันไม่ได้ก็ยิงหัวกันหมดโดยหมายถึงคนในครอบครัวเขาเอง ที่วางแผนทำงานกันมากว่า 8 เดือน (ทำนองสบถกับคนในครอบครัวว่า ถ้าจัดการไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่กันแล้ว) ไม่ได้ตั้งใจคุยกับทีมข่าว แต่หากจะข่มขู่ทีมข่าวจริง ต้องคุยเป็นภาษากลางเพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจในความหมายนั้นเอง ส่วนที่มีประโยคทำนองว่าทีมข่าวทีมดังกล่าวจะอยู่ยากหลังจากนี้นั้น หมายความว่าตนจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจะต้องขึ้นโรงขึ้นศาลและทำให้อยู่ยากนั้นเอง
ส่วนด้านประเด็นตนเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่และเป็น กต.ตร.สน.ลาดพร้าวนั้น ตนเองไม่ได้เป็นแล้ว เพราะหมดวาระเมื่อเดือนที่แล้วแล้ว และเรื่องนี้ก็ไม่ได้เอาไปพูดยกตนข่มท่านกับใครที่ไหนแต่อย่างใด และยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวให้ถึงที่สุด