ตำรวจคอมมานโดบุกรวบอดีต รอง เลขาเจ้าอาวาส ข่มขืนมาราธอนเด็กชายญาติตัวเองในกุฎิวัดสุรินทร์ จนเป็นหูดที่ทวารหนัก ก่อนหนีกบดานบนเรือกลางแม่น้ำป่าสัก สารภาพเคยล่วงละเมิดทางเพศสามเณรในวัดอีกด้วย
วันนี้ ( 6 เม.ย.) พ.ต.อ.ไผท คูสันเทียะ ผกก.1 บก.ปพ. พร้อมด้วย พ.ต.ท.จตุพร ติกแก้ว สว.กก.1 บก.ปพ.นำกำลังจับกุม นายสุทิน (สงวนนามสกุล) ตามหมายจับศาลจังหวัดสุรินทร์ 3 หมายจับ " ข้อหา "ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ และ กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบสามปีฯ" ได้ บริเวณข้างเรือโป๊ะหลังท่าเรือขนส่งสินค้า บริษัทแห่งหนึ่ง ใน ต.ท่าเจ้าสนุก อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา
สืบเนื่องจากเมื่อปี 2563 ขณะนายสุทิน ผู้ต้องหา บวชเป็นพระอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ใน จ.สุรินทร์ โดยมีตำแหน่งเป็นรองเลขาเจ้าอาวาสระหว่างนั้น ด.ช.เอ อายุ 6 ขวบ และ ด.ช.บี อายุ 9 ขวบ (ทั้งสองนามสมมติ)ซึ่งเป็นญาติห่าง ๆ มักมานอนค้างกับพี่ชายที่บวชอยู่วัดเดียวกันกับผู้ต้องหา ต่อมาเมื่อเดือน ต.ค. 2567 ผู้ปกครองสังเกตเห็นความผิดปกติของ ด.ช.เอ ที่มักเกาบริเวณก้นบ่อยครั้ง และเมื่อตรวจสอบดูก็พบแผล จึงได้พาไปรักษาที่โรงพยาบาล ผลการตรวจพบว่าติดเชื้อโรคหูดบริเวณทวารหนัก ซึ่งแพทย์ระบุว่าเป็นโรคที่มักพบในผู้ใหญ่ และอาจมีสาเหตุมาจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
ต่อมาผู้ปกครองได้สอบถามบุตรชายทั้งสองอย่างละเอียด จนทราบความจริงว่าถูกนายสุทิน กระทำชำเราภายในกุฏิหลายครั้ง ตั้งแต่ ปี 63 - 67 จึงตัดสินใจพาบุตรชายทั้งสองเข้าแจ้งความดำเนินจนศาลออกหมายจับไว้ หลังทราบว่าถูกแจ้งความพระสุทินได้ลาสิกขาและหลบหนีไปกบดานในพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ก่อนเจ้าหน้าที่บุกจับกุมได้ขณะกำลังหลบหนีอยู่บนเรือกลางแม่น้ำป่าสัก
สอบสวน ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศญาติตัวเองจริง นอกจากนี้ยังได้ล่วงละเมิดทางเพศสามเณรภายในวัดเดียวกันอีกด้วย เบื้องต้นพบผู้เสียหายในคดีนี้จำนวน 3 ราย จึงควบคุมตัวส่ง สภ.ศีขรภูมิ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
