“บังมัด คลองตัน” ยอมรับกับสื่อ ตั้งใจไปตบหน้า “สันธนะ” ที่ผับย่านทองหล่อ 13 อ้างปมเก่า “สจ.โต้ง” และไม่ชอบนักเลงรังแกคนอื่น ลั่น “ท้าให้ไปแจ้งความ ยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ถ้าอยากจะเอาคืนให้มาได้ตลอด”
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 3 เม.ย. 68 นายวันชัย มะอินทร์ หรือ บังมัด คลองตัน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังจากไปทะเลาะวิวาทกับ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล ก่อนจะมีการทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น
บังมัด คลองตัน กล่าวว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.30 น.ที่ผ่านมา บริเวณลานจอดรถของสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ 13 ลูกน้องตนที่เป็นเด็กรับรถในย่านทองหล่อ ได้โทรศัพท์มาบอกตนว่า เห็น นายสันธนะ อยู่ในที่เกิดเหตุ ตนจึงเดินทางจากซอยหัวหมาก 18 พร้อมลูกน้องรวมตนเป็น 3 คน ขับรถไปถึงที่เกิดเหตุ โดยยอมรับว่าตั้งใจไปเพื่อก่อเหตุ
เมื่อไปถึงลงจากรถจึงปรี่เข้าไปหา นายสันธนะ ที่ยืนกอดอกอยู่ จากนั้นก็ต่อว่า นายสันธนะ ด้วยคำหยาบ แล้วตบที่หน้าของ นายสันธนะ 1 ครั้ง ซึ่งลูกน้องของ นายสันธนะ ที่มีประมาณ 10 กว่าคน ก็ต่างกรูเข้ามา ทำให้ลูกน้องของตนพยายามจะจับแยก ตามที่ปรากฏในคลิป เหตุการณ์จึงสงบลง
เรื่องนี้เป็นความแค้นที่ในอดีตก่อนโควิด-19 นายสันธนะ มีพฤติกรรมลักษณะไปรังแกลูกน้องตนที่รับรถในพื้นที่เอกมัย 30 จนทำให้ลูกน้องได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งตนเป็นคนในพื้นที่ ต้องการให้คนในพื้นที่มีรายได้จากการรับรถเพื่อไปเลี้ยงครอบครัว แต่กลับมาถูกรังแก ตนจึงมองว่าไม่เป็นธรรม
รวมถึงมีคดี นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ที่ นายสันธนะ พูดว่า “สจ.โต้ง โดนยิงต้องเอารองเท้าไปหนุนหัว ไม่ให้นอนสบาย” พูดแบบนี้ไม่ได้ เพราะไม่ให้เกียรติกัน ประกอบกับตนที่เป็นพี่น้องสนิทกันกับ สจ.โต้ง จึงเก็บความไม่พอใจไว้ ก่อนเปิดยุทธการล่า นายสันธนะ ขึ้น พร้อมประกาศกับลูกน้องทุกคนในพื้นที่รับรู้ว่า หาก นายสันธนะ เข้ามาในพื้นที่ขอให้แจ้งตน แต่ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาลูกน้องก็ไม่พบว่า นายสันธนะ เข้าไปในพื้นที่
สำหรับคดีความนั้น ตนได้ประกาศไปแล้วว่า ให้ นายสันธนะ ไปแจ้งความ ตนพร้อมจะเข้าสู่ขบวนการทางกฎหมาย และจะไม่หนีไปไหน ยืนยันว่า จะรออยู่ที่ซอยหัวหมาก 18 ตลอดเวลา “หากอยากแก้แค้นก็มาหาได้ตลอด” ส่วนที่ นายสันธนะ ประกาศว่าจะไม่ขอแจ้งความนั้น แต่จะดำเนินการตามแนวทางหรือวิถีทางของตัวเอง “ก็ยินดี พร้อมตลอดเวลา ขอให้มา”
ทั้งนี้ ตนรู้ดีว่าการใช้กำลังเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ขอโทษเยาวชน แต่มันอดไม่ได้จริงๆ สำหรับคนที่ชอบรังแกคนอื่น ส่วนที่บ้านเมืองมีกฎหมายมีขื่อมีแป ทำไมไม่รอให้กฎหมายดำเนินการนั้น มองว่า มันช้า ไม่ทันใจสำหรับคนประเภทนี้
