ตำรวจ สน.สายไหมจับหนุ่มไรเดอร์ วัย 24 ปี ขโมยเงินลูกค้าหลังจ้างใช้บริการนำไปส่งให้พี่สาว มูลค่ากว่า 3 หมื่นบาท
วันนี้ (2 เม.ย.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น.ดูแลงานสืบสวน พล.ต.ต.เจษฎา สวยสม ผบก.น.2 พ.ต.อ.ณธัชพงศ์ กิรัมย์ ผกก.สน.สายไหม พ.ต.ท.สัญชัย คีรีรัตน์ รองผกก.ป.สน.สายไหม พ.ต.ท.ดิษยเดช ยิ้มแย้ม รอง ผกก.สส.สน.สายไหม พ.ต.ท.สรกฤช นาคสุทธิ์ สว.สส.สน.สายไหม และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.สายไหม ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายปรเมษฐ์ อายุ 24 ปี ข้อหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะหรือพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นจากการกระทำความผิด
พร้อมของกลาง ธนบัตรสกุลเงินนิวซีแลนด์มูลค่า 100 เหรียญ 10 ฉบับ ธนบัตรสกุลเงินนิวซีแลนด์มูลค่า 50 เหรียญ 1 ฉบับ ธนบัตรสกุลเงินนิวซีแลนด์มูลค่า 20 เหรียญ 1 ฉบับ ธนบัตรสกุลเงินนิวซีแลนด์มูลค่า 10 เหรียญ 1 ฉบับ ธนบัตรสกุลเงินสิงคโปร์มูลค่า 500 เหรียญ 5 ฉบับ รถจักรยานยนต์ Honda wave 125 i สีดำแดง หมายเลขทะเบียน 7ขผ 3739 กทม. 1 คัน จับกุมที่บริเวณภายในซอยพหลโยธิน 58 แยก 61 บ้านเลขที่ 599 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.00 น.
สืบเนื่องจาก ผู้เสียหายได้เดินทางมา สน.สายไหม แจ้งกับพนักงานสอบสวนว่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.50 น. ผู้แจ้งได้ใช้บริการแอปพลิเคชั่น เพื่อส่งพัสดุไปให้พี่สาว โดยมีผู้ใช้บัญชี ชื่อ ปรเมษฐ์ ขับขี่รถจักรยานยนต์ คันหมายเลขทะเบียน 7ขผ 3739 กทม. มารับพัสดุที่บ้านพัก ภายในซอยพหลโยธิน 58 แยก 46 แขวง สายไหม เขต สายไหม กรุงเทพมหานคร เพื่อไปส่งให้กับบ้านเพื่อน ถนนราษฎร์พัฒนา แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง จังหวัด กทม.
ต่อมาผู้เสียหายได้พยายามติดตามพัสดุที่ส่งนั้นอยู่ตลอดเรื่อยมาทั้งทางแอปพลิเคชั่น และทางเบอร์โทรของนายปรเมษฐ์ (ผู้ให้บริการ) จนนายปรเมษฐ์ ได้ทำการปิดช่องทางการติดต่อกับผู้แจ้งเป็นเหตุให้ผู้แจ้งไม่สามารถทำการติดต่อกับ นายปรเมษฐ์ ได้ ผู้แจ้งจึงได้ติดต่อไปยัง น.ส.กษมา ซึ่งเป็นผู้รับแต่ยังไม่ได้รับพัสดุแต่อย่างไร ทางผู้เสียหายและญาติจึงได้ช่วยกันติดต่อหลายช่องทาง แต่ก็ถูกบล๊อกเบอร์โทรทั้งหมด
ซึ่งพัสดุภายในเป็นเงินตราต่างประเทศสกุลเงินนิวซีแลนด์ทั้งหมด 13 ฉบับ เป็นเงิน 1,080 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และสกุลเงินสิงคโปร์ 5 ฉบับ เป็นเงิน 500 ดอลลาร์สิงคโปร์ บรรจุภายในซองกระดาษสีส้ม มีสัญลักษณ์ ยี่ห้อ Super Rich สีขาว ซึ่งคิดรวมเป็นเงินบาทได้ประมาณ 33,681 บาท เป็นเหตุให้ผู้แจ้งได้รับความเสียหาย ผู้แจ้งจึงได้มาแจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.สายไหม ได้ทำการสืบสวนอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และทราบข้อมูลมวลชนจากสายลับว่า นายปรเมษฐ์ บุคคลตรงตามที่ผู้เสียหายได้แจ้งว่าได้ทำการก่อเหตุดังกล่าวทางชุดสืบสวน สน.สายไหม ได้นำรูปภาพผู้ก่อเหตุให้ผู้เสียหายดูแล้วยืนยันว่าเป็นบุคคลตามภาพจริงที่มารับทรัพย์สินของตนไป โดยชุดสืบสวนทราบข้อมูลจากสายลับว่านายปรเมษฐ์ฯ พักอาศัยในบริเวณภายในซอยพหลโยธิน 58 แยก 61 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร
จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พบชายไทยไม่ทราบชื่อมีตำหนิรูปพรรณตรงตามที่ผู้เสียหายได้แจ้งไว้ กำลังยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพื่อขอทำการตรวจค้นและขอตรวจสอบบัตรประชาชน ทราบชื่อ คือ นายปรเมษฐ์ จึงได้สอบถามว่าได้ก่อเหตุนำทรัพย์สินที่ผู้เสียหายได้ส่งพัสดุผ่านทางแอปพลิเคชันนั้น(ของกลาง) ตามเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้นไปหรือไม่
นายปรเมษฐ์ ให้การรับว่า ตนได้รับก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยยอมรับว่าตนได้เก็บไว้ที่บ้านพักภายใน ซอยพหลโยธิน 58 แยก 61 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพฯ นั้นจริง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าไปตรวจค้น พบทรัพย์สินของกลางซุกซ่อนอยู่ภายในถุงพลาสติกบริเวณที่นั่งหน้าบ้านดังกล่าวโดยมีลำโพงทับถุงพลาสติกดังกล่าวไว้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ตรวจสอบทรัพย์สินแล้วครบตามจำนวนและยึดไว้เป็นของกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบทันทีในขณะจับกุม และแจ้งให้ผู้ต้องหาทราบสิทธิและเข้าใจข้อกล่าวหาดีแล้ว จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.สายไหม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป