รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เผยให้ดีเอสไอตรวจสอบเหตุตึก สตง.ถล่ม 3 ประเด็น "ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์เท็น" ส่อใช้นอมีนี มีพิรุธงบดุลขาดทุนตลอด ให้กรรมการกู้ 2 พันล้าน ประมูลงานต่ำกว่าราคากลางเพียง 1% ส่อฮั้ว และใช้สินค้าไม่ได้มาตรฐาน
วันที่ 1 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ว่า พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ถึงการช่วยเหลือเยียวยาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเหตุตึกถล่มจากแผ่นดินไหวของรัฐบาล ว่าเรื่องการเยียวยาจะเกิดขึ้นตามพระราชบัญญัติที่มีการกระทำผิดทางอาญาเกิดขึ้น ซึ่งกรณีดังกล่าวหากมีการร้องทุกข์กล่าวโทษ ประมาททำให้เสียชีวิต ถือเป็นฐานความผิดทางอาญา ก็จะไปเข้าข้อกฎหมาย แต่ในการช่วยเหลือเยียวยาของเหตุภัยพิบัติ มีหลายกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานที่ดูแลโดยตรง อย่างกระทรวงมหาดไทย สำนักนายกรัฐมนตรี ก็ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา ซึ่งในส่วนของรัฐบาลมองว่าเหตุการณ์ดังกล่าว เหมือนโศกนาฏกรรม ก็ต้องดูแลช่วยเหลือเต็มที่
ดังนั้น การเยียวยาทางด้านจิตใจและที่เป็นตัวเงินจะต้องมี ซึ่งในการเยียวยาเหตุภัยพิบัติสามารถทำได้เลย ไม่ต้องรอให้คดีสิ้นสุด นอกจากนี้ รัฐบาลอาจจะมีมติคณะรัฐมนตรี ในการช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติม สำหรับของกระทรวงยุติธรรม ได้จัดเจ้าหน้าที่จิตวิทยาเข้าไปดูเกี่ยวกับสภาพจิตใจ
ในส่วนของกระทรวงยุติธรรม อาจจะมีอยู่ 3 ประเด็นที่จะเข้าข่ายความผิด ที่ต้องตรวจสอบ อาทิ
1. การประกอบธุรกิจบุคคลต่างด้าว ที่ใช้นอมินี เท่าที่ดูจากงบการเงินที่เผยแพร่กันอยู่ ของบริษัทดังกล่าว ขาดทุนมาตลอด และไม่มีการเสียภาษี อีกทั้งมีการนำเงินของบริษัทไปให้กรรมการกู้จำนวน 2 พันล้านบาท แม้อำนาจที่แท้จริงจะให้ต่างชาติ 49% ไทย 51% แต่หากมองในลักษณะมีอำนาจครอบงำ จะเห็นในเรื่องของการบริหาร ดังนั้นจึงต้องเข้าไปดู ประกอบกับการตรวจสอบสถานที่เดียวกัน กลุ่มคนเดียวกัน มีบริษัทในลักษณะนี้ 10 บริษัท ซึ่งต้องดูว่ามีการกระทำใดที่เป็นความผิดในพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจบุคคลต่างด้าว และเข้าข่ายที่จะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าไปดำเนินการหรือไม่
ประเด็นที่ 2. หากสินค้าไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม ดีเอสไอมีอำนาจในการสอบสวน
และ 3. การจัดซื้อจัดจ้าง ที่เรียกว่าฮั้วประมูล หากเกินกว่า 30 ล้านบาทขึ้นไป กรมสอบสวนคดีพิเศษก็มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบ เพราะเบื้องต้นเห็นว่าต่ำกว่าราคากลางเพียง 1% เท่านั้น ปกติการประมูลที่ไม่มีการแข่งขัน ควรต่ำกว่า 10-15%
ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่า บริษัทย่อยของบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์เท็น ต้องเข้าไปตรวจสอบด้วยหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ทราบจากอธิบดีดีเอสไอ ว่า วันนี้จะมีการประชุมเรื่องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยสิ่งที่ต้องเร่งทำ คือ ตรวจสอบว่ามีการกระทำผิดหรือไม่ เพราะเกิดเหตุเพียงที่เดียว
นอกจากนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับกระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบธุรกิจนอมินี ที่ทำให้ GDP ของประเทศโต แต่คนไทยไม่ได้ประโยชน์ ต้องดูว่าการทำกฎหมายให้ธุรกิจของคนต่างด้าว เป็นไปตามกฎหมาย เงินจำนวนมากที่จะไหลไปให้คนต่างด้าวก็จะกลับมาที่คนไทย 51% โดยตนได้มอบหมายสำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ ตรวจสอบภาพรวมของธุรกิจนอมินีทั้งหมด