ศาลยุติธรรมพร้อมเปิดทำการพิจารณาคดี ตามปกติ 31 มี.ค.นี้ หลังโครงสร้างหลักอาคารไม่ได้รับความเสียหาย มีความปลอดภัยเเล้ว แต่ศาลในกทม.3 แห่ง คือ ศาลเยาวชนฯ ศาลล้มละลายกลาง ศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ แจ้งเลื่อนนัดคดี เพราะอยู่ระหว่างตรวจสอบ
วันนี้ (30 มี.ค.) สำนักงานศาลยุติธรรมได้เผยแพร่ข่าวกรณีเกิดเหตุเเผ่นดินไหว ว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มี.ค.2568 สำนักงานศาลยุติธรรม และศาลยุติธรรมทั่วประเทศ ได้สำรวจความเสียหายและตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงตามหลักวิศวกรรมอาคาร โดยมีทีมผู้บริหาร พร้อมด้วยวิศวกรรมอาคารในพื้นที่เข้าสำรวจโครงสร้างอาคาร และระบบควบคุมต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้สำนักงานศาลยุติธรรม ได้รับรายงานผลการสำรวจและตรวจสอบ จากศาลยุติธรรมทั่วประเทศ ไม่พบความเสียหายต่อระบบฐานรากและโครงสร้างหลักของอาคาร รวมทั้งระบบควบคุมไฟฟ้า ประปา ลิฟต์ ที่จะก่อให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด โดยบางแห่งมีเพียงรายงานจุดที่ต้องซ่อมแซมบ้างเกี่ยวกับงานกระเบื้อง ผนังที่มีร่องรอยแตกหัก หรือเศษปูน สำนักงานศาลยุติธรรม จึงประกาศให้ทราบทั่วกันว่า ศาลยุติธรรมมีความปลอดภัยและพร้อมให้บุคลากรเข้าปฎิบัติงานได้ตามปกติพร้อมให้บริการงานคดีและประชาชนที่ติดต่อราชการศาลได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 31 มี.ค. 2568
โดยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีศาล 3 แห่ง ได้แก่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ที่ตั้งอยู่ถนนกำแพงเพชร แขวงและเขตจตุจักร และศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง กับศาลล้มละลายกลาง ที่ตั้งในอาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ อาคาร A ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ มีประกาศแจ้งเรื่อง การเลื่อนนัดพิจารณา ในวันจันทร์ที่ 31 มี.ค.นี้ ออกไปก่อน เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและประเมินความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งการเลื่อนนัดพิจารณามีรายละเอียด ดังนี้
ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ขอเลื่อนนัดพิจารณาคดีแพ่งและคดีอาญาทุกคดีในวันที่ 31 มี.ค. ออกไปก่อน โดยติดต่อขอทราบวันนัดใหม่ได้ที่งานศูนย์นัดความ หมายเลข 089-200-8354 หากมีข้อสงสัยติดต่องานประชาสัมพันธ์ หมายเลข 080-047-7058 หรืองานศูนย์นัดความโดยศาลได้จัดทีมเจ้าหน้าที่ ศูนย์นัดความและเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์เพื่อประสานการเลื่อนนัดคดี ที่ชั้น 1 (ข้างองค์พระ) ด้วย ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของบุคลากรและประชาชน ศาลไม่อนุญาตให้คู่ความหรือประชาชนขึ้นอาคาร ระหว่างการตรวจสอบประเมินโครงสร้างอาคาร
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ขอเลื่อนนัดไกล่เกลี่ยและนัดพิจารณาคดี ในวันที่ 31 มี.ค. เวลา 09.00-16.30 น. ทั้งหมดออกไปก่อน โดยศาลทรัพย์สินฯ จะออกหมายแจ้งวันเวลา นัดใหม่ให้คู่ความและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทราบ ซึ่งจะมีการแจ้งประกาศทางเว็บไซต์ของศาลด้วย www.ipitc.coj.go.th ทั้งนี้คู่ความยังสามารถใช้บริการอื่นของศาลผ่านระบบยื่นฟ้องและส่งคำคู่ความ ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-filing และระบบบริการออนไลน์ศาลยุติธรรม หรือ CIOS ได้ตามปกติ
แทนการเดินทางมาติดต่อที่ศาลด้วย และหากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อทางโทรศัพท์ 02-141-1910 หรือทางอีเมล ipitc@coj.go.th
ศาลล้มละลายกลาง ขอเลื่อนนัดไกล่เกลี่ยและนัดพิจารณาคดีในวันที่ 31 มี.ค.นี้ เวลา 09.00-16.30 น. ทั้งหมดออกไปก่อน และขอความร่วมมือติดต่อราชการเฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากมีเปลี่ยนแปลงศาลจะแจ้งให้ทราบต่อไป โดยศาลล้มละลายกลางจะออกหมายแจ้งวัน-เวลานัดใหม่ให้คู่ความและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทราบ ซึ่งจะมีการแจ้งประกาศทางเว็บไซต์ของศาลด้วย www.cbc.coj.go.th ทั้งนี้คู่ความยังสามารถใช้บริการอื่นของศาลผ่านระบบ e-filing และระบบ CIOS ได้ตามปกติแทนการเดินทางมาติดต่อที่ศาลด้วย และหากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อทางโทรศัพท์ 02-141-1561 หรือทางอีเมล bkcc@coj.go.th
ทั้งนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงใด สำนักงานศาลยุติธรรมจะแจ้งให้ทราบในโอกาสแรกต่อไป
นอกจากนี้ ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ประกาศเรื่องปิดทำการในวันจันทร์ที่ 31 มี.ค. 2568 เพื่อตรวจสอบอาคารที่ทำการสภาทนายความ
โดยระบุว่า ตามที่เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มี.ค. 2568 เวลา 13.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางที่ประเทศเมียนมา ส่งผลให้เกิดแรงสั่นสะเทือนที่รับรู้ได้ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และส่งผลกระทบต่ออาคารต่างๆนั้นเพื่อความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของสมาชิกทนายความ พนักงาน เจ้าหน้าที่บุคลากรสภาทนายความและประชาชน อาศัยอำนาจตามข้อบังคับสภาทนายความ พระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ.2528 มาตรา 27 (1) และข้อบังคับสภาทนายความ ว่าด้วยการพนักงาน สภาทนายความ พ.ศ. 2530 ข้อ 4 จึงประกาศปิดทำการสภาทนายความ ในวันจันทร์ที่ 31 มี.ค.นี้ เพื่อทำการตรวจสอบอาคารที่ทำการสภาทนายความ ตั้งแต่เวลา 08.30 น. – 16.30 น.