xs
xsm
sm
md
lg

มติก.ตร.ฉลุย! ตั้ง 53 นายพลวาระเดือนเม.ย. "บิ๊กอ้อ-บิ๊กโอ๋" ผงาดติดยศพล.ต.อ.ก่อนเกษียณ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



นายกฯ นั่งหัวโต๊ะก.ตร. ถกแต่งตั้งนายพลวาระเดือนเมษายน 53 ตำแหน่ง "บิ๊กอ้อ-บิ๊กโอ๋" ผงาดติดยศพล.ต.อ. นั่งที่ปรึกษาพิเศษ ตร. ก่อนเกษียณ



วันนี้ (27 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ครั้งที่ 3/2568 โดยมีวาระสำคัญ คือ การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการพิจารณาคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตามคำวินิจฉัยของ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. 


โดยบรรยากาศก่อนประชุม นายกรัฐมนตรี ยิ้มทักทายสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว จากนั้นได้เข้าห้องประชุมศรียานนท์ ก่อนจะเปิดการประชุมโดยเน้นย้ำให้ กรรมการ ก.ตร. และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ช่วยกันพิจารณาตามวาระการประชุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

หลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ ผบช.สง.ก.ตร. เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการประชุมปกติในรอบเดือน มีวาระที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลโดยเรื่องที่พิจารณามี 3 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่หนึ่งร่างระเบียบเกี่ยวกับเงินเพิ่มผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานด้านสาธารณสุขของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงหลักการของระเบียบเดิม เป็นเพียงการปรับระเบียบให้รองรับตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับปัจจุบัน ยืนยันว่าสาระสำคัญไม่ได้เปลี่ยนไป

เรื่องที่สอง การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษและผู้ทรงคุณวุฒิ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 53 ราย

เรื่องที่สามเป็นการคัดเลือกแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งระดับผู้บัญชาการ 1 รายย้อนหลังไปในวาระประจำปี 2566 ตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมข้าราชการตำรวจ


พล.ต.ท.อนุชา กล่าวทิ้งท้ายว่า นอกจากนั้นเป็นการหารือเรื่องการพัฒนางานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสำนักงานกำลังพลจะมีการรับไปดำเนินการ

สำหรับการแต่งตั้งวาระเดือนเมษายนนี้เป็นการแต่งตั้งในตำแหน่ง “ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.” ยศ พล.ต.อ. เทียบรอง ผบ.ตร., จเรตำรวจแห่งชาติ ได้โควต้า 10 ตำแหน่ง พิจารณาจากผู้ช่วย ผบ.ตร., รองจเรตำรวจแห่งชาติ ไม่น้อยกว่า 1 ปี
จากผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน โดยพิจารณาแต่งตั้งเรียงลำดับอาวุโส มีผู้ช่วย ผบ.ตร.เพียง 2 ราย ที่มี คุณสมบัติครบเท่านั้น คือ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ และ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี

“ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร.” ยศ พล.ต.ท. เทียบเท่าผู้บัญชาการ พิจารณาจากรองผู้บัญชาการ, รองจเรตำรวจ ครองตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี กลุ่มนี้สามารถแต่งตั้งได้ 20 คน การแต่งตั้งครั้งนี้มี 11 นายที่ครบหลักเกณฑ์ อาทิ พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม, พล.ต.ต.อรรคพงศ์ พิมลศิริ, พล.ต.ต.เนติพงศ์ ธาตุทำเล, พล.ต.ต.อิทธิพล สุวรรณวัฒนะ, พล.ต.ต.ธวัชชัย นาคฤทธิ์


และตำแหน่ง “ผู้ทรงคุณวุฒิ ตร.” ยศ พล.ต.ต. เทียบเท่าผู้บังคับการ พิจารณาจากรองผู้บังคับการ ที่ครองตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี กลุ่มนี้สามารถแต่งตั้งได้ 30 คน ปรากฏว่าปีนี้มีการตัดยอดจากตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ ตร. และผู้ทีงคุณวุฒิพิเศษ ตร. ที่แต่งตั้งได้ไม่ครบ 17 ราย ทำให้ระดับผู้ทรงคุณวุฒิ ตร.ที่ปกติแต่งตั้งได้ 30 ตำแหน่ง ได้เพิ่มอีกรวมเป็น 47 ตำแหน่ง แต่ปรากฏว่าปีนี้มีผู้มีคุณสมบัติครบแค่ 41 ตำแหน่งเท่านั้น อาทิ พ.ต.อ.หญิงลัดขณา แพทยานันท์, พ.ต.อ.วงศ์วริศ สีคำ, พ.ต.อ.ปิยมิตร วิภาตะศิลปิน, พ.ต.อ.กิตติภพ ชมภูนุ, พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์สุทธิ์, พ.ต.อ.สมบัติ หงษ์ทอง, พ.ต.อ.นรเศรษฐ์ อินทรจันทร์ และพ.ต.อ.วิชัย แดงประดับ
กำลังโหลดความคิดเห็น