สตม.เข้าเยี่ยม และให้กำลังใจข้าราชการตำรวจ ผู้บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้ความเป็นธรรมและจะดำเนินการทางวินัยกับ ตร.ในสังกัดจนถึงที่สุด
สืบเนื่องจากกรณี ด.ต.กิตติศักดิ์ ข้าราชการตำรวจสังกัด บก.ตม.3 ทำร้ายร่างกาย ร.ต.ต.พาสกร ภาชู รอง สวป.สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ขณะเข้าระงับเหตุช่วยเหลือหญิงสาวคนหนึ่ง ก่อนถูก ด.ต.กิตติศักดิ์ ชิงอาวุธปืนขนาด 9 มม. แล้วหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ เหตุเกิดประมาณตีสามของวันที่ 25 มี.ค. 2568 และรุ่งสางของวันเดียวกัน ด.ต.กิตติศักดิ์ ได้เข้ามอบตัวพร้อมนำอาวุธปืนของ ร.ต.ต.พาสกร มามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สัตหีบ ก่อนถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามกฎหมาย แล้วนั้น
ในวันเดียวกันนั้น พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ผบก.ตม.3 ได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว จึงมอบหมายให้ พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3 เข้าเยี่ยม ร.ต.ต.พาสกร ผู้เสียหาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ และแจ้งให้ทราบว่า ทางผู้บังคับบัญชาจะให้ความเป็นธรรม พร้อมกันนี้ ได้แสดงน้ำใจและให้การช่วยเหลือเยี่ยวยาทั้งทางร่างกาย และจิตใจแก่ผู้บาดเจ็บ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้หายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว และตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
โดยในส่วนการกระทำของ ด.ต.กิตติศักดิ์ ผู้กระทำผิด แยกเป็นกรณีเรื่องทางคดีอาญา ซึ่งทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาอุกฉกรรจ์ต่อผู้กระทำผิดแล้ว ก็ให้ทางพนักงานสอบสวนและตำรวจภูธรภาค 2 ดำเนินการทางกฎหมายต่อไปจนถึงที่สุด และในส่วนทางวินัย พล.ต.ท.ภาณุมาศ ผบช.สตม.ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ ผบก.ตม.3 มีคำสั่งให้ผู้กระทำผิด “ให้ออกจากราชการไว้ก่อน” ด้วยเหตุต้องหาคดีอาญา โดยปรากฏพยานหลักฐานแจ้งชัด ซึ่งหลังจากนี้จะมีการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงต่อผู้กระทำผิดแยกต่างหากอีกส่วนหนึ่ง
จากการตรวจสอบมูลเหตุของเรื่องดังกล่าวข้างต้น เป็นเรื่องส่วนตัวของ ด.ต.กิตติศักดิ์ ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือสืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด