ตำรวจ 191 จับกุมเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ลักลอบขนยาเสพติด ยึดไอซ์ 332 กก. และยาเค 18 กก. สารภาพรับจากภาคเหนือเตรียมกระจายส่งในสุพรรณบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง
วันนี้ (21 มี.ค.) ที่ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ.ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายพิทัก หรือทัก อายุ 31 ปี
พร้อมของกลาง 1.ไอซ์ น้ำหนัก 332 กิโลกรัม 2.คีตามีน น้ำหนัก 18 กิโลกรัม 3.รถยนต์ จำนวน 2 คัน 4.รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน และ 5.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ว่ามีกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดพื้นที่ ต.สวนแตง จ.สุพรรณบุรี โดยไปรับยาเสพติด แล้วนำกลับมาเก็บซุก ซ่อนไว้บริเวณบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 5 ต.สวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
ต่อมาวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.00 น. กลุ่มผู้ต้องหาขับรถยนต์จำนวนสามคัน จากพื้นที่ ต.สวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ขับมุ่งหน้าพื้นที่ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท แล้วกลับทิศทางมุ่งหน้า อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี โดยรถยนต์ทั้งสามคันมีลักษณะขับตามกันเป็นขบวนโดยทิ้งระยะห่าง จึงเชื่อว่ากลุ่มเครือข่าย ได้ลักลอบไปรับยาเสพติดแล้ว กำลังนำกลับมาเก็บซุกซ่อนไว้บริเวณบ้านหลังดังกล่าว ตามพฤติกรรมที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เฝ้าสังเกต และสืบสวนมา จึงได้สะกดรอยติดตามมา
กระทั้งเวลาประมาณ 23.20 น. ของวันเดียวกัน รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่น mu-x สีขาว เลขทะเบียน ฆญ 2002 กรุงเทพมหานคร ขับเข้ามาจอดภายในที่จอดรถของบ้านหลังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวขอตรวจค้นจับกุม พบนายพิทัก หรือทัก กับพวกวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายพิทัก พร้อมตรวจยึดยาเสพติดของกลางทั้งหมด
นายพิทัก ให้การรับสารภาพว่า ตัวเองทำงานเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในอำเภออู่ทอง โดยเริ่มรับไอซ์ มาจำหน่ายตั้งแต่ช่วงปลายปี 67 โดยวิธีการจะนัดรับยากับเครือข่ายจากทางภาคเหนือมาส่งยังจุดนัด จากนั้นผู้ต้องหากับพวกจะเดินทางไปรับยาแล้วนำมาพักไว้ที่บ้านหลังดังกล่าวเพื่อรอการกระจายให้เครือข่ายในพื้นที่ จังหวัดสุพรรณและพื้นที่โดยรอบ
เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป และจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน”
ส่วนกลุ่มเครือข่ายที่ร่วมกันก่อเหตุได้อาศัยความมืดและความชำนาญในพื้นที่ หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามจับกุมตัวมาดพเนินการทางกฎหมายต่อไป
