หนุ่มพิการแฉเคยถูก “จ๋า” ลวงขโมยรถ ก่อนเหยื่อใหม่โดนซ้ำ ร้องตำรวจเร่งลากคอดำเนินคดี
จากกรณีนายพิชชากร คำตัน อายุ 24 ปี แจ้งความกับ สภ.บางกรวย หลังถูก น.ส.พรรณนาราย หรือจ๋า เอี่ยมสะอาด อายุ 23 ปี ที่รู้จักผ่านแอปหาคู่ หลอกยืมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อแกรนฟรีลาโน่ สีแดง ทะเบียน 2 ขช 3412 กทม. เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 68 อ้างว่าจะไปสัมภาษณ์งาน ก่อนขาดการติดต่อ โทรหาพ่อของฝ่ายหญิงก็ไม่สามารถติดต่อได้ รถเพิ่งเข้าไฟแนนซ์ ทำให้เจ้าตัวเดือดร้อนหนัก ตำรวจรับแจ้งความและอยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี เหตุเกิดภายในอพาร์ทเม้นท์เอื้ออารี ถ.นครอินทร์ ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
ล่าสุด( 19 มี.ค.)เมื่อเวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดใจจากนายธนทัต อายุ 23 ปี พนักงานบริษัท ซึ่งเป็นผู้พิการมือทั้งสองข้าง และเป็นอดีตคนคุย และเป็นเหยื่อของ น.ส.พรรณนาราย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เคยตกเป็นเหยื่อของหญิงสาวรายนี้มาก่อน โดยรู้จักกันผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อต้นเดือน ม.ค. 68 จากนั้นอีกไม่กี่วัน น.ส.พรรณนาราย หรือแทนตัวเองว่า น.ส.จี้ ซึ่งชื่อเล่นไม่ตรงกับที่เหยื่อรายใหม่ถูกหลอก โดยหลอกให้ตนไปรับที่ทำงานมาห้องตน ก่อนก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ของตนขณะตนอาบน้ำ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.68 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นหายตัวไปโดยมีการบล็อกช่องทางติดต่อตนทุกช่องทาง จนกระทั่งตนร้องเรียนกับสื่อมวลชน ทำให้ผู้ก่อเหตุรู้สึกกลัวและติดต่อขอคืนรถผ่านเฟซบุ๊ก โดยตั้งเงื่อนไขให้ตนถอนแจ้งความก่อน จึงจะนำรถมาคืน ตนจำเป็นต้องตอบตกลง ก่อนที่อีกฝ่ายจะนำรถมาจอดทิ้งไว้ที่ห้างสรรพสินค้าย่านปากเกร็ด พร้อมขอค่ารถกลับบ้านอีก 200 บาท แต่เมื่อตนได้รถคืนแล้ว ตัดสินใจแจ้งตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ว่าจะไม่ยอมความ และยืนยันให้ดำเนินคดีต่อ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ทราบความคืบหน้าทางคดี
นายธนทัต เผยว่า หลังเห็นข่าวพฤติกรรมซ้ำรอยของ น.ส.พรรณนาราย หรือ น.ส.จี้ กับเหยื่อรายใหม่ ก็รู้สึกไม่ดี และไม่คิดว่าจะกล้าก่อเหตุซ้ำอีก มองว่าหากไม่ถูกจับกุมจริงจัง จะมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้น จึงอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะถือเป็นภัยต่อสังคม พร้อมเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง อย่าเชื่อใจคนที่รู้จักผ่านสื่อออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นแอปหาคู่หรือโซเชียลมีเดียอื่น ๆ เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ