MGR Online-รอง ผบช.น.มอบใบประกาศนียบัตร แก่ตำรวจที่ผู้มีผลงานป้องกันปราบปรามดีเด่น รวมทั้งหมด 12 เคส
วันนี้ (15 มี.ค.) ที่กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (บก.อคฝ.) พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รอง ผบช.น.เป็นประธานการประชุมบริหารงานป้องกันปราบปราม บช.น.ครั้งที่ 3/2568 และมอบใบประกาศนียบัตรแก่ตำรวจที่ผู้มีผลงานป้องกันปราบปรามดีเด่น ดังนี้
เคสที่ 1 บก.น.2 สน.บางเขน บริเวณถนนวัชรพลหน้าบริษัทยูพีดี ด.ต.สมบัติ เพ่งพิศ ส.ต.ท.อธิชา อามาตย์เสนา เมื่อวันที่ 5 มี.ค. เวลา 20.30 น. ระหว่างสายตรวจออกตรวจพื้นที่ ได้พบเจอรถจักรยานยนต์ลักษณะมีพิรุธต้องสงสัย จึงได้เรียกให้หยุดแต่ผู้ต้องหาไม่หยุด จึงไล่ติดตามและรถผู้ต้องหาได้ล้มลง ทำให้ตำรวจและผู้ต้องหาได้รับบาดเจ็บ นำส่ง รพ.นพรัตน์ราชธานี ตรวจปัสสาวะผู้ต้องหาผลเป็นบวกโดยรับว่าเสพมาจริง แจ้งข้อหา "เสพเมพแอมเฟตามีน (ยาบ้า) และขับรถในขณะมีสารเสพติดในร่างกาย"
เคสที่ 2 บก.น.1 สน.ห้วยขวาง บริเวณปากซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 12 จ.ส.ต.เทียนชัย แก้วพิลา จ.ส.ต.ณัฐวุฒิ แสงสว่าง เมื่อวันที่ 15 ก.พ. เวลา 22.37 น. สายตรวจได้รับแจ้งว่า มีนักท่องเที่ยวหมดสติ จึงออกไปตรวจสอบเมื่อถึงสถานที่เกิดเหตุ พบชายหมดสติได้ทำการปั้มหัวใจ ทำให้ผู้หมดสติยังมีชีพจรอยู่สามารถนำส่ง รพ.เพื่อรักษาต่อไปได้ ผู้รับรางวัลมี Police Mind เหมาะสมกับการเป็นแบบอย่างที่ดี
เคสที่ 3 บก.น.1 สน.พญาไท บริเวณแยกอุรุพงษ์ จ.ส.ต.กิตติพงษ์ ฤทธิ์เทพ ส.ต.อ.ธนันต์ พันธะไชย เมื่อวันที่ 25 ก.พ. เวลา 03.00 น. ระหว่างสายตรวจออกตรวจพื้นที่ พบชายกำลังจะงัดรั้วเหล็ก จึงเข้าตรวจสอบผู้ต้องหาปีนกำแพงหนี และไล่ตามจับกุมได้ ตรวจสอบเป็นบุคคลตามหมายจับ ผู้รับรางวัลมีไหวพริบปฏิภาณในการปฏิบัติงาน ใช้เทคโนโลยีในการตรวจสอบหมายจับ สามารถจับกุมผู้มีพฤติกรรมลักทรัพย์โดยอาชีพได้เป็นที่น่าชื่นชม
เคสที่ 4 บก.น.2 สน.สายไหม บริเวณร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ถนนเฉลิมพงษ์ แขวงสายไหม ร.ต.อ.พงศ์พัฒน์ เกิดนพนันท์ ด.ต.นิวัฒน์ เย็นวัฒนา จ.ส.ต.นิตินัย นธะสนธิ์ เมื่อวันที่ 3 ม.ค. เวลา 20.30 น. ได้รับแจ้งส่วนตัวจากประชาชนในพื้นที่ว่ามีเหตุยิงกัน โดยผู้ถูกยิงเป็น ร.ต.ท.บรรรัง เกศาพร จึงแจ้งชุดจับกุมและไปยังสถานที่เกิดเหตุ จึงได้ทำการจับกุมตัว ผู้รับรางวัลมีความใส่ใจต่อความเดือดร้อนของผู้อื่น ไปยังสถานที่เกิดเหตุด้วยความรวดเร็ว ทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทันท่วงที
เคสที่ 5 บก.น.3 สน.มีนบุรี บริเวณริมถนนฝั่งตรงข้าม ซอยเจริญพัฒนา 15 ถนนเจริญพัฒนา ด.ต.มงคล อัศวบำรุงกุล ส.ต.ต.รัชพล หนูสวัสดิ์ เมื่อวันที่ 17 ก.พ. เวลา 20.50 น. สายตรวจได้ออกตรวจพื้นที่ พบวัยรุ่นไม่สวมหมวกนิรภัย เมื่อพบเห็นมีลักษณะพยายามหลบหนี จึงเรียกให้หยุดทำการตรวจค้น พบปืนปากกาและเครื่องกระสุนอยู่ในรังเพลิงพร้อมใช้งาน โดยรับว่าเป็นของตนจริงมีไว้ป้องกันตัว จึงจับกุมดำเนินคดีต่อไป ผู้รับรางวัลมีไหวพริบปฏิภาณในการปฏิบัติงานป้องกันก่อนเกิดเหตุ ตัดโอกาสในการก่ออาชญากรรม
เคสที่ 6 บก.น.3 สน.มีนบุรี บริเวณปั้มแก๊ส ซอยรามคำแหง 180/1 ถนนรามคำแหง แขวงมีนบุรี ส.ต.ต.พาณิช บุญเจียม ส.ต.ต.วสันต์ ศรีแย้ม เมื่อวันที่ 17 ก.พ. เวลา 15.00 น. สายตรวจได้ออกตรวจพื้นที่ บริเวณปั้มฯซึ่งเป็นที่สาธารณะ พบชายมีพิรุธต้องสงสัยลักษณะคล้ายคนเสพยา จึงไปพูดคุยแต่ผู้ต้องหาไม่ให้ความร่วมมือ ตรวจค้นตัวพบอาวุธปืน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนในรังเพลิง 5 นัด พร้อมใช้งาน อีกทั้งผู้ต้องหายอมรับว่า เสพยาบ้ามาก่อนจริง จึงจับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน ผู้รับรางวัลมีไหวพริบปฏิภาณในการปฏิบัติงาน ยับยั้งผู้มีความเสี่ยงในการก่ออาชญากรรมได้ก่อนเกิดเหตุ เป็นแบบอย่างที่ดี
เคสที่ 7 บก.น.5 สน.ทองหล่อ บริเวณปากซอยสุขุมวิท 32 ถนนสุขุมวิท (ขาเข้า) แขวงพระโขนง จ.ส.ต.กัณฑโชค ทองนาค จ.ส.ต.วีรยุทธ พรหมสาขา ณ สกลนคร เมื่อวันที่ 26 ก.พ. เวลา 14.30 น. สายตรวจได้รับแจ้งจากว่า มีเหตุทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยว จึงออกตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบผู้เสียหายชี้ผู้ต้องหาว่าเป็นผู้กระทำความผิด โดยผู้ต้องหาได้หลบหนี ตำรวจจึงติดตามตัวและสามารถจับกุมได้ อีกทั้งได้ตรวจสารเสพติด พบว่ามีสารเมทแอมเฟตามีนในร่างกาย แจ้งข้อหา "ทำร้ายร่างกาย และเสพเมทแอมเฟตามีน" นำส่งพนักงานสอบสวน ผู้รับรางวัลไปถึงสถานที่เกิดเหตุด้วยความรวดเร็วสามารถติดตาม จับตัวผู้ก่อเหตุได้ทันท่วงที ประกอบกับสนองนโยบายการดูแลนักท่องเที่ยวของรัฐบาล.
เคสที่ 8 บก.น.5 สน.พระโขนง บริเวณจุดกลับรถตรงข้าม ธนาคารกสิกรซอยสุขุมวิท 101 ส.ต.ท.ณัฐวุฒิ เพ็ชรักษา ส.ต.ท.กฤตธกร อองละออ เมื่อวันที่ 26 ก.พ. เวลา 14.30 น. สายตรวจออกตรวจพื้นที่ พบรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เมื่อเห็นตำรวจได้ขี่หลบหนี จึงติดตามไปถึงท้ายซอยสุขุมวิท 64/1 ได้ทิ้งรถหลบหนี จึงติดตามจับกุมตัวได้ ตรวจค้นตัวพบอาวุธปืน 1 กระบอก แม็กกาซีน 1 อัน และเครื่องกระสุนปืน 6 นัด พร้อมใช้งาน จึงจับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน ผู้รับรางวัลมีไหวพริบในการจับกุมที่ดี สามารถตัดโอกาสการก่ออาชญากรรมก่อนเกิดเหตุได้อย่างทันท่วงที
เคสที่ 9 บก.น.6 สน.บางรัก บริเวณลานจอดรถอาคารเอ็นที (โทรคมนาคมแห่งชาติ บางรัก) ส.ต.ท.จิตวัต สีทอน ส.ต.ท.สรท ชอบธรรม ส.ต.ต.ภัทรภัทร์ เจริญพงศ์ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. เวลา 08.30 น. ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีพัสดุผิดกฎหมายมาส่งที่ลานจอดรถอาคารเอ็นที จึงรีบตรวจสอบพบรถกระบะ ตรวจค้นพบบุหรี่ไฟฟ้า 3,600 ชิ้น จึงจับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน ผู้รับรางวัลมีการวางแผนที่ดี และได้จับกุมบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล เหมาะสมแก่การเป็นแบบอย่าง
เคสที่ 10 บก.น.6 สน.ปทุมวัน บริเวณสนามฟุตบอลสถาบันอุเทนถวาย ส.ต.ท.กฤษณะ จอมศรี ส.ต.ท.พลกฤต ยลอนันต์ ส.ต.ท.ชยพล สีหราช เมื่อวันที่ 3 ก.พ. เวลา 17.50 น. ตำรวจได้ออกปิดล้อมตรวจค้นตามมาตรการป้องกันพบ นายกฤษณะ (สงวนนามสกุล) เมื่อเห็นตำรวจได้วิ่งหนีไปยังสนามฟุตบอล จึงวิ่งตามไปและทำการตรวจค้น พบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ซ่อนอยู่บริเวณกางเกงยีนส์ ผู้รับรางวัลได้ตัดโอกาสการก่ออาชญากรรม และป้องกันเหตุนักเรียนทะเลาะวิวาทมาตรการป้องกัน เป็นแบบอย่างที่ดี
เคสที่ 11 บก.น.7 สน.บางยี่ขัน ด.ต.จาตุรพงศ์ รักแก้ว จ.ส.ต.ภูริวัฒน์ สมภักดี เมื่อวันที่ 1 ก.พ. เวลา 14.05 น. ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า ลืมปิดแก๊สจึงออกตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบว่าบ้านของผู้แจ้งล็อกประตูไว้ โทรขออนุญาตผู้แจ้งเพื่อเข้าบ้าน และได้รับการอนุญาต สายตรวจขอบ้านข้างเคียงเพื่อปีนหน้าต่างเข้าบ้านหลังดังกล่าว เมื่อไปถึงพบว่ามีกลุ่มควันและกลิ่นไหม้ใกล้เกิดเหตุเพลิงไหม้ จึงรีบปิดแก๊สระงับเหตุได้ทันท่วงที ผู้รับรางวัลมีความใส่ใจในการบริการประชาชน สะท้อนการแก้ปัญหาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินให้แก่ประชาชน เป็นบุคลากรที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ บช.น.
เคสที่ 12 บก.น.9 สน.ท่าข้าม บริเวณหมู่บ้านสินทวีแกรนวิลด์วิลเลจ ซอยอนามัยงามเจริญ 19 ร.ต.อ.ธีรวุฒิ วงษ์ศรีวอ ส.ต.ท.ณรงค์วิทย์ นามเยาว์ เมื่อวันที่ 23 ก.พ. เวลา 12.30 น. สายตรวจได้รับแจ้งผ่าน 191 มีบุคคลต้องสงสัยคล้ายกำลังลักทรัพย์ตัดสายเคเบิ้ล จึงรีบออกไปตรวจสอบ พบรถกระบะกำลังออกจากหมู่บ้าน จึงแจ้ง รปภ.ให้ช่วยเหลือการจับกุมจึงหยุดรถได้ ตรวจค้นรถพบสายเคเบิ้ลจำนวนมาก และอุปกรณ์การตัด อาทิ หัวเจาะไฟฟ้า คัดเตอร์ตัดเคเบิ้ล ได้จับกุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน ผู้รับรางวัลมีความใส่ใจในการปฏิบัติหน้าที่ ไปถึงสถานที่เกิดเหตุด้วยความรวดเร็ว จึงทำให้จับกุมตัวผู้ต้องหาได้.