แฟนสาว “อดีต ผกก.โจ้” เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ส่วนประเด็นหยดเลือดบนผ้าขนหนู และที่เกิดเหตุอยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบจาก พฐ. คาด ใช้เวลาภายใน 30 วัน
วันนี้ (12 มี.ค.) ที่ สน.ประชาชื่น น.ส.สิภชา แก่นสุวรรณ แฟนสาวของ อดีต ผกก.โจ้ พร้อมด้วย นายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความ ได้เดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น กรณีการเสียชีวิต ของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีต ผกก.โจ้ ในเรือนจำคลองเปรม กลางดึกของวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า เมื่อวานนี้ (11 มี.ค.) พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น สอบปากคำพยาบาลเรือนจำที่เข้าไปตรวจสอบร่างอดีต ผกก.โจ้ เพียง 1 ปาก ซึ่งได้รับข้อมูลมาในระดับหนึ่ง โดยวันนี้จะเรียกผู้คุมประมาณ 2 นาย และผู้ต้องขังที่อยู่ในห้องใกล้เคียง ซึ่งเป็นพยานแวดล้อม 4-5 ปาก มาสอบปากคำเพิ่มเติมต่อหน้าพนักงานอัยการ
ส่วนอดีตผู้คุมแดน 7 ที่มีข้อพิพาทกับอดีต ผกก.โจ้ ไม่ได้อยู่ในรายชื่อที่ต้องมีการสอบปากคำในคดีชันสูตรการตาย เพราะอดีตผู้คุมเป็นคดีทำร้ายร่างกาย ซึ่งเป็นคนละส่วนกัน อย่างไรก็ตาม ในส่วนคดีของการทำร้ายร่างกายนั้น ทางพนักงานสอบสวนจะทำงานควบคู่กันไป
สำหรับภาพกล้องวงจรปิดในแดน 5 ที่อดีต ผกก.โจ้ถูกคุมขังอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดมาแล้ว และส่งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบรายละเอียดว่าถูกตัดต่อหรือไม่
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ได้ประสานงานกับแม่ของอดีต ผกก.โจ้ เพื่อให้ข้อมูลร่วมกับพนักงานอัยการแล้ว แต่เนื่องจากแม่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ ประกอบกับยังอยู่ในช่วงจัดพิธีศพ จึงจะดำเนินการนัดหมายในภายหลังอีกครั้ง
ประเด็นที่มีหยดเลือดอยู่ในที่เกิดเหตุและผ้าขนหนูนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจจากพิสูจน์หลักฐาน คาดว่า จะใช้เวลาในการตรวจสอบภายใน 30 วัน ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดในการสอบสวน โดยจะมีการเร่งรัดผลอย่างเต็มที่ ส่วนแนวทางการสอบสวนนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงตั้งอยู่ไว้ 2 ประเด็น คือ 1. ฆ่าตัวตาย และ 2. ถูกทำให้ตาย
ด้าน พล.ต.ต.เจษฎา สวยสม ผบก.น. 2 เปิดเผยว่า ประเด็นการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องในเรือนจำกลางคลองเปรม ได้สั่งให้สอบปากคำภาพรวมทั้งหมด ทั้งคดีการเสียชีวิต และกรณีญาติมาแจ้งความร้องทุกข์จากการที่อดีต ผกก.โจ้ถูกทำร้ายร่างกายจากผู้คุมเรือนจำ ซึ่งจะต้องดูว่าทางเรือนจำจะจัดคนมาให้สอบในแต่ละวันอย่างไรบ้าง
ส่วนประเด็นที่อดีต ผกก.โจ้ มีท่าทีโวยวายและเสียงดังหลังจากญาติไปเยี่ยมในวันเกิดเหตุนั้น ยังไม่ทราบข้อมูลดังกล่าว ต้องรอผลการสอบปากคำก่อน โดยได้กำหนดบุคคลที่จะต้องสอบปากคำทั้งพยานแวดล้อม พยานผู้ต้องขัง และพยานเจ้าหน้าที่ ยืนยันว่าตำรวจตั้งประเด็นการสอบปากคำและแนวทางการสืบสวนคดีเอาไว้เกินกว่าที่สื่อมวลชนและประชาชนคาดหวังแน่นอน นอกจากการตรวจสอบภาพในกล้องวงจรปิดแล้วจะต้องสอบปากคำทั้งญาติและบุคคลที่เคยมาเยี่ยมอดีต ผกก.โจ้ ด้วยทุกคน
สำหรับกรณีพนักงานสอบสวนเข้าไปพบว่า ศพอดีต ผกก.โจ้ นอนอยู่กับพื้นและมีผ้าคลุม ไม่ได้อยู่ในท่าแขวนคอนั้น จะเข้าข่ายทำลายพยานหลักฐานหรือไม่ พล.ต.ต.เจษฎา ระบุว่า อะไรที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ถ้ามีเจตนาก็ผิดหมด ทั้งนี้ จะต้องตรวจสอบว่ามีเจตนาทำลายพยานหลักฐานหรือไม่ ส่วนที่กรมราชทัณฑ์ชี้แจงว่าเป็นการช่วยเหลือนั้นจะต้องดูข้อบ่งชี้ว่าเป็นผลจากการพยายามช่วยเหลือหรือไม่ ซึ่งทางพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบอย่างละเอียดไว้แล้ว