MGR Online - "ดีเอสไอ" เรียก “แต๊ง-พงศกร” ให้ข้อมูลคดีแตงโม พร้อมนำไปสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม เบื้องต้นคาดว่าแตงโมขาดการติดต่อทางโทรศัพท์ตั้งแต่ช่วงเวลา 20.40 น.
วันนี้ (7 มี.ค.) เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุม ขั้น 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อาคารเอ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร นายพงศกร มหาเปารยะ หรือ แต๊ง อดีตเพื่อนนักแสดง น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เปิดเผยหลังให้ข้อมูลพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ร่วม 3 ชั่วโมง ว่า ข้อมูลที่ตนได้ให้กับดีเอสไอ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถเปิดเผยออกสื่อได้ เจ้าหน้าที่มองว่าเป็นประโยชน์ เพราะข้อมูลบางส่วน เจ้าหน้าที่พอมีข้อมูลอยู่แล้วแต่ยังไม่ยืนยันจึงเตรียมนำข้อมูลดังกล่าวไปขยายผลทางคดีต่อ
นายพงศกร กล่าวว่า ส่วนประเด็นที่มีข้อมูลว่าแตงโมรีวิวเรือ 400,000 บาทนั้น ตนเองมองว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะราคารับงานรีวิวจะไม่สูงถึงหลักแสน ซึ่งการรับงานที่มีราคาสูงถึงหลักแสนส่วนใหญ่จะเป็นงานที่ต้องมีสัญญาเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังจาก 3 ปีผ่านไปตนเองมีความคิดที่เปลี่ยนจากตอนแรกมองคดีนี้เป็นอุบัติเหตุ แต่ตอนนี้ความเห็นส่วนตัวคิดว่า คดีนี้คือฆาตกรรมแน่นอน
ด้าน พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวคณะสืบสวนคดีการเสียชีวิตของ ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม เปิดเผยว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของแตงโม และคนบนเรือในห้วงวันที่ 24-26 ก.พ. 2565 และได้เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลตลอดทั้งเดือน มี.ค.นี้ และเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมค้นหาช่วงเวลาที่แตงโมขาดการติดต่อ ซึ่งเบื้องต้นพบว่าแตงโมขาดการติดต่อทางโทรศัพท์ตั้งแต่ช่วงเวลา 20.40 น.
พ.ต.ต.ณฐพล เผยว่า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมเชิญบุคคลหนึ่งซึ่งเคยโพสต์ว่าแตงโมตกเรือ ซึ่งเป็นการโพสต์ก่อนช่วงเวลาที่คนบนเรือบอกว่าแตงโมตกเรือเข้ามาให้ข้อมูลด้วยและเตรียมประสานเข้าไปสอบปากคำ "แอนนา" ที่เรือนจำ แต่ยังไม่ได้กำหนดว่าเป็นวันไหน รวมไปถึงมีการขยายผลในการตรวจสอบเรือของเสี่ยสมพงษ์ซึ่งมีข้อมูลว่าได้ทำการเปลี่ยนทะเบียนถึง 3 ครั้งด้วย
"สำหรับโทรศัพท์ที่ได้รับมาจากบังแจ็คตอนนี้เครื่องอยู่ในระหว่างการตรวจสอบของสถาบันนิติศาสตร์ยังไม่ได้ผล รวมถึง โทรศัพท์ของอลิซ ขณะนี้ตรวจสอบเสร็จแล้วอยู่ในระหว่างการวิเคราะห์ข้อมูล ทั้งนี้ สำหรับข้อมูลของนายพงศกร หรือ แต๊งค์ ที่มาให้ข้อมูลกับดีเอสไอนั้น มองว่าเป็นประโยชน์พอสมควร ซึ่งดีเอสไอจะนำข้อมูลทั้งหมดไปวิเคราะห์ ร่วมกับข้อมูลการลงพื้นที่และข้อมูล ทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป"