xs
xsm
sm
md
lg

ศาลฎีกาสั่งสมาคมฟุตบอล ชดใช้เงินให้บริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคท 360 ล้าน ปมละเมิดสัญญาถ่ายทอดฟุตบอลไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ศาลฎีกาสั่งสมาคมฟุตบอล ชดใช้เงินให้บริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคท 360 ล้านพร้อมดอกเบี้ย ปมละเมิดสัญญาการเผยแพร่การแข่งขันฟุตบอลไทย แต่บริษัทสยามปอร์ต ซินดิเคทก็ต้องจ่ายให้บริษัทซีนิเพล็กซ์ 240 ล้าน

วันนี้ (6 มี.ค.) ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ ได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่มีการฟ้องเรื่องลิขสิทธิ์ สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ ละเมิด การเผยแพร่การแข่งขันฟุตบอลไทย

โดยเริ่มแรกคดีนี้ บจก.ซีนิแพล็กซ์ (บริษัทในเครือของผู้ให้บริการโทรทัศน์ แบบบอกรับสมาชิก) ยื่นฟ้อง บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท (ผู้มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการถ่ายทอดเสียงและภาพการแข่งขันฟุตบอลรายการต่างๆ ที่จัดโดยสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์) และคดีที่ บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท ยื่นฟ้อง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กับพวกรวม 20 คน เรื่องลิขสิทธิ์ สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ ละเมิด ต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง โดยคดีทั้งสองสำนวนนี้ศาลทรัพย์สินฯ ซึ่งเป็นศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้พิจารณาพิพากษารวมกัน โดยให้เรียก บจก. ซีนิแพล็กซ์ โจทก์สำนวนแรกซึ่งถูกฟ้องเป็นจำเลยที่ 20 ในสำนวนที่สองว่าจำเลยที่ 20 และเรียกบมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำเลยสำนวนแรกซึ่งเป็นโจทก์ในสำนวนที่สองว่าโจทก์ ส่วนจำเลยที่ 1-19 ในสำนวนที่สองยังคงเป็นจำเลยตามลำดับเดิม

ขณะที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ซึ่งเป็นศาลชั้นต้น พิเคราะห์แล้ว มีคำพิพากษาให้ บมจ.สยามสปอร์ตฯ โจทก์ ชำระ 240 ล้านบาทแก่ บจก. ซีนิแพล็กซ์ จำเลยที่ 20 พร้อมดอกเบี้ยใน อัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559 จนถึงวันที่โจทก์จะชำระแก่จำเลยที่ 20 เสร็จสิ้น คำขออื่นของจำเลยที่ 20 ให้ยก

กับให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จำเลยที่ 1 ชำระเงิน 50 ล้านบาทแก่บมจ.สยามสปอร์ตฯ โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 27 มิถุนายน 2560) จนถึงวันที่จำเลยที่ 1 จะชำระแก่โจทก์เสร็จสิ้น ส่วนคำขออื่นของโจทก์ให้ยก และยกฟ้องจำเลยที่ 2-20 กับยกฟ้องแย้งจำเลยที่ 20

ต่อมา บมจ.สยามสปอร์ตฯ โจทก์, สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จำเลยที่ 1 และบจก.ซีนิแพล็กซ์ จำเลยที่ 20 ยื่นอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ชำนัญพิเศษ พิเคราะห์แล้ว มีคำพิพากษาแก้เป็นว่า ให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จำเลยที่ 1 ชำระเงิน 450 ล้านบาทแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 27 มิถุนายน 2560) จนถึงวันที่ 10 เมษายน 2564 และอัตราร้อยละ 5 ต่อปี หรืออัตราอื่นที่เปลี่ยนแปลงไปตามพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์ มาตรา 7 วรรคสอง ประกอบมาตรา 224 วรรคหนึ่ง ที่ใช้บังคับในแต่ละช่วงเวลา นับแต่วันที่ 11 เมษายน 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่ต้องไม่เกินอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีตามที่โจทก์ขอ และให้บมจ.สยามสปอร์ตฯ โจทก์ชำระเงิน 240 ล้านบาทแก่บจก. ซีนิแพล็กซ์ จำเลยที่ 20 พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559 จนถึงวันที่ 10 เมษายน 2564 และอัตราร้อยละ 5 ต่อปี หรืออัตราอื่นที่เปลี่ยนแปลงไปตามพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 7 วรรคสอง ประกอบมาตรา 224 วรรคหนึ่ง ที่ใช้บังคับในแต่ละช่วงเวลา นับแต่วันที่ 11 เมษายน 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่จำเลยที่ 20 แต่ต้องไม่เกินอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ตามที่จำเลยที่ 20 ขอ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง

บมจ.สยามสปอร์ตฯ โจทก์ และสมาคมกีฬาฟุตบอล จำเลยที่ 1 ฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา ซึ่งศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว พิพากษาแก้เป็นว่าให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จำเลยที่ 1 ใช้ค่าเสียหายแก่ บมจ.สยามสปอร์ตฯ โจทก์เป็นเงินจำนวน 360 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยนับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ
กำลังโหลดความคิดเห็น