อัยการสั่งฟ้อง “โกทร” อดีต สส.ปราจีนบุรี จ้างวานฆ่า สจ.โต้ง รวมทั้งข้อหาซ่องโจร-ร่วมฆ่าโดยไตร่ตรอง ส่วนมือปืน-ลูกน้อง 6 คน โดนฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง อีกรายโดนข้อหาสนับสนุน
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (6 มี.ค.) นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่าตามที่สำนักงานคดีอาญา สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนการสอบสวนจากพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2568 คดีที่ นางณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือนายกจอย นายก อบจ.ปราจีนบุรี ภรรยา สจ.โต้ง ผู้เสียหายในคดีที่ มีการกล่าวหา นายธนศรัณย์กรณ์ เตชะธนัตถ์โชติ ,นายศักดิ์สิทธิ์ ชินวงษ์, นายธนภัทร ส่งแสง, นายอภิสิทธิ์ สดชื่น, นายสิทธิชัย ศรีภักดี, นายภัทรนนท์ บุญชู, นายสุนทร วิลาวัลย์ หรือ โกทร อดีตรมช.สาธารณสุข ,อดีต สส.ปราจีนบุรี และอดีตนายกอบจ.ปราจีนบุรี ผู้ต้องหาที่ 1-7
ความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีอาวุธปืนของผู้อื่นซึ่งได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมายไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์, ร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน, ร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันทำให้เสียหาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารใดในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, เป็นช่องโจร
และน.ส.มินช์ญารัศน์ พชระมารกุล ผู้ต้องหาที่ 8 ความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
กรณีเหตุยิงถล่ม นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ ส.จ.โต้ง คนดังเมืองปราจีนบุรี เสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 21/1 ถนนวัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ของ นายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทร อดีตนายกองค์การบริหารจังหวัด (อบจ.) ปราจีนบุรี อดีต รมช.สาธารณสุข และ อดีต ส.ส.ปราจีนบุรี บิดาของ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ ปมเหตุมาจากการเมืองท้องถิ่น
โดยพนักงานอัยการได้รับสำนวนไว้พิจารณาเป็นสำนวน ส.1 เลขรับที่ 88/2568 เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ ถือเป็นคดีสำคัญตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. 2563 บัดนี้ สำนักงานคดีอาญา ได้ตั้งองค์คณะขึ้นพิจารณาสำนวนดังกล่าวและมีคำสั่งดังนี้
สั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-7 ในความผิดฐานเป็นซ่องโจร, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีอาวุธปืนของผู้อื่นซึ่งได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมายไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันมีอาวุธปืนซึ่งนายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย, ร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและไม่มีเหตุสมควร
สั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-6 ในฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน
สั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 ในฐานความผิดมีเครื่องกระสุนปืนซึ่งมิใช่สำหรับใช้กับอาวุธปืนที่ตนได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ไว้ในครองครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย
สั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 7 ในฐานความผิดเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิด ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
สั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 8 ในฐานความผิดเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
นอกจากนั้นพนักงานอัยการได้มีคำขอให้เพิ่มโทษผู้ต้องหาที่ 4 และมีคำขอให้ริบของกลางที่เจ้าพนักงานเก็บรักษาไว้
และสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-7 ในข้อหาร่วมกันทำให้เกิดความเสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งเอกสารใดในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
คดีดังกล่าวพนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญา ได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 8 ต่อศาลอาญาแล้ว เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ (6 มี.ค. 2568)
ทั้งนี้ศาลอาญาประทับฟ้องคดีไว้เป็นคดีหมายเลขดำอ.629/2568 และมีคำสั่งให้เบิกตัวจำเลยทั้งหมดมาสอบคำให้การวันที่ 7 มี.ค.นี้เวลา 09.00 น.