กลับลำ! “สนธิญา” หนุนดีเอสไอรับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษ

MGR Online - "สนธิญา สวัสดี" ยื่นหลักฐานดีเอสไอ ปมส่อทุจริตฮั้ว สว. ระดับอำเภอ เคยจี้ กกต. แต่ไม่คืบ พร้อมกลับลำสนับสนุนขอให้รับเป็นคดีพิเศษ
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่กรมสอบสวน​คดี​พิเศษ​ (ดีเอสไอ)​ นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร นำเอกสารที่เคยร้อง กกต. เรื่องการฮั้ว สว. ระดับอำเภอ เขตปทุมวัน มามอบให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อประกอบการพิจารณากรณีดีเอสไอเตรียมประชุมบอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) รับ-ไม่รับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษ ในวันที่ 6 มี.ค.ที่จะถึงนี้
นายสนธิญา กล่าวว่า ตนนำเอกสารที่เคยร้องกับ กกต. ตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย.67 การเลือกในระดับอำเภอ เขตปทุมวัน ของกลุ่ม 8 ที่มีให้กาบัตรเฉพาะ 2 เบอร์ คือ เบอร์ 5 และเบอร์ 10 รวมทั้ง ขอให้ดีเอสไอตรวจสอบกรณีการจัดการชุมนุมของผู้สมัคร สว. ที่ผ่านระดับอำเภอ ที่อาคารจิมทอมสันเฮ้าท์ เขตปทุมวัน เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.67 ก่อนการเลือกตั้ง สว. ระดับจังหวัด ของกรุงเทพมหานคร เพียง 1 วัน ซึ่งก่อนหน้านี้ กกต. เรียกตนไปสอบเพียง 2 ครั้ง

นายสนธิญา กล่าวอีกว่า ยังมีเอกสารแนะนำตัวผู้สมัคร (สว.3) เป็นพยานหลักฐาน จึงมามอบให้ ดีเอสไอ ช่วยตรวจสอบอีกหน่วยงานหนึ่ง เพื่อนำไปสู่ข้อสรุปว่าเป็นการฮั้ว จัดตั้ง หรือ การบล็อคผลของการเลือกตั้งให้กับบุคคลหนึ่งบุคคลใด ซึ่งระยะเวลาผ่านมาแล้วกว่า 7 เดือน กกต. ยังไม่มีผลการสอบสวน และหาก ดีเอสไอ รับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษ ตนก็พร้อมส่งเอกสารมาให้เพื่อความสุจริตและเที่ยงธรรม เกี่ยวกับการเลือกตั้ง สว. ที่ผ่านมา

"นอกจากนี้ ในข้อเรียกร้องที่ขอให้เปิดกล้องวงจรปิดในช่วงกระบวนการเลือก สว.ระดับอำเภอ แต่ปรากฏว่า กกต. นำคลิปที่ถ่ายจากมือถือมาให้ดู ซึ่งไม่เห็นภาพมุมกว้าง ส่วนที่มีการเรียกร้องให้เปิดหีบคะแนน กกต. ไม่ได้ให้เหตุผลใดๆ บอกแค่ว่าไม่สามารถทำได้ แม้กฎหมายจะบอกว่าต้องมีคำสั่งจากศาลฎีกา แผนกเลือกตั้ง แต่ กกต. ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลในส่วนนี้"

นายสนธิญา กล่าวเสริมว่า ส่วนก่อนหน้านี้ที่เคยไม่เห็นด้วยกับการให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ เพราะมองว่าจะมีความขัดแย้งเรื่องการทำงานระหว่าง กกต.และดีเอสไอ แต่ครั้งนี้ตนสนับสนุนให้รับเป็นคดีพิเศษ เพราะคณะอนุกรรมการฯ ดีเอสไอ ได้ลงความเห็นให้รับคดีฮั้ว สว.เป็นคดีพิเศษ และเชื่อว่าบอร์ด กคพ. ที่จะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้ (6 มี.ค.) จะมีมติรับเป็นคดีพิเศษเช่นกัน ซึ่งตนได้นำคำร้องที่เคยยื่นไปแล้วที่ กกต. มาให้ดีเอสไอเพื่อตรวจสอบด้วย รวมถึงให้รับคำร้องของตนไว้ในสำนวนคดีพิเศษและให้ตรวจสอบคู่ขนานกันไป