MGR Online - "เสี่ยสมพงษ์" เดินทางเข้าพบ ดีเอสไอ หลังเป็นผู้พบร่าง "แตงโม" คนแรก ยืนยันอยากช่วยค้นหา แต่ตลอด 3 ปีกลับถูกแฟนคลับตามต่อว่ามาตลอด
วันนี้ (4 มี.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อาคานเอ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร นายสมพงษ์ สุนทรพรวาที หรือ "เสี่ยสมพงษ์" อายุ 67 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัท บางกอกโรลเลอร์ จำกัด ผู้นำเรือช่วยค้นหาและผู้พบร่าง น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เป็นคนแรก เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของแตงโม หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568
นายสมพงษ์ กล่าวว่า เดินทางมาวันนี้ก็จะให้ข้อมูลแบบเดิมที่เคยให้การไปแล้วที่ สภ.นนทบุรี ส่วนที่รู้ว่าเป็นศพแตงโมตั้งแต่พบครั้งแรกเพราะด้วยสัญชาตญานความเป็นมนุษย์เวลานั้น เนื่องจากรู้ข่าวแตงโมตกน้ำเลยรู้ว่าต้องมีศพโผล่ขึ้นมาหรือจะให้เป็นศพคนอื่น โดยตนไม่ได้เป็นอาสาแต่ตนได้ซื้อเรือมาลำหนึ่ง จึงอยากช่วยค้นหาก็เลยเติมน้ำมันออกหาแตงโม แล้วก็บังเอิญเจอ แต่ตลอด 3 ปีมาถูกแฟนคลับแตงโมว่ามาตลอด ไม่เห็นบอกว่าตนเป็นพลเมืองดีเลย
นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า วันพบร่างแตงโมใครจะเชื่อก็เชื่อ ใครไม่เชื่อก็ไม่ว่ากัน วันนั้นตรงกับวันเสาร์ บ้านตนมีโรงยิม มีสระว่ายน้ำ ตนตื่นตี 5 ทุกวัน ไปนั่งสมาธิที่โรงยิม ขณะเดินจากบ้านหลังใหญ่จะไปนั่งสมาธิที่โรงยิม แต่ไม่เกี่ยวกับนั่งสมาธิ คุณแตงโมก็ดลจิตดลใจขึ้นมา ตนได้ถามว่ามาทำอะไร เขาไม่ตอบอะไร จึงบอกกลับไปว่าจะเอาเรือไปช่วยหา ถ้าคุณอยากเจอตน ก็ขอให้เจอง่ายๆ
นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า ขณะเอาเรือลงจากแลมป์ เราก็ถามเด็กแลมป์ว่า ถ้าเราออกไปจรัญ 92 หันหน้าทางรัฐสภาจะออกซ้ายหรือขวาดี เด็กแลมป์บอกให้ออกซ้ายเจอแน่ๆ ไปทางพระราม 7 จึงเจอแตงโมเร็วขณะนั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องสมาธิ ยืนยันเป็นพุทธ ไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์ ส่วนที่พูดว่า "เอาเพื่อนมานั่งนี้" เป็นเสียงคล้ายคนในคลิป นักข่าวว่าคล้ายหรือไม่ ทั้งนี้ ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตนถูกว่าตลอดแต่ก็ไม่ถือสา ยกโทษให้แต่การจะว่าใครต้องมีเหตุผล อย่าไปคิดกล่าวหาใครแล้วเอาเรื่องไม่ดีไปป้ายเขา เพราะคือความไม่ยุติธรรมของสังคม
นายสมพงษ์ กล่าวเสริมว่า ส่วนที่บอกว่าตนไปจับร่างแตงโมตอนพบเป็นคนแรกจะมี ดีเอ็นเอไปติดร่างด้วย ต้องพูดให้เข้าใจว่าช่วงนั้นเป็นเวลาน้ำลงและแรงด้วย เราจอดเรือแล้ว ร่างแตงโมกำลังจะไหลไปใต้ท้องเรือ ยืนยันไม่มีการจับแหงนหน้า แต่เป็นการ "รั้ง" ไม่ให้เข้าไปข้างในใต้ท้องเรือ รวมถึง เชือกเรือที่ว่าเป็นเชือกผูกม้าก็กลายเป็นเชือกของลูกน้องไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ อย่างไรก็ตาม ยืนยันไม่มีความกังวลจะเรียกมาอีก 100 ครั้งก็ได้ ไม่มีข้อมูลใหม่เป็นข้อมูลเดิม เพียงแต่เป็นพลเมืองดี อโหสิกรรมให้ทุกคน สังคมทุกวันนี้คนทำดีอยู่ยาก
นายสมพงษ์ ยังระบุว่า ตอนที่พบร่างแตงโมท้ายทอยเปรอะขี้โคลนเปียกอยู่แปลว่ายังเพิ่งขึ้นใหม่จากน้ำ