xs
xsm
sm
md
lg

“ภูมิธรรม” นำคณะเปิดโต๊ะแถลง ยืนยันส่งตัวชาวอุยกูร์เป็นไปตามหลักสากล และ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ทุกคนยินยอม ไม่มีการใช้กำลัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ภูมิธรรม” พร้อมคณะ เปิดโต๊ะแถลงกรณีส่งกลับชาวอุยกูร์ ย้ำ รัฐบาลทำตามหลักกฎหมายสากล และ พ.ร.บ.ป้องกันอุ้มหายฯ ทางการจีนยืนยันบุคคลเหล่านี้ไม่ได้ทำผิดร้ายแรง ได้กลับสู่ครอบครัว พร้อมดูแลจัดหาอาชีพให้ 7 วันแรก “ทวี” จะไปดูด้วยตัวเอง ด้าน รอง ผบ.สตม.ย้ำ ทุกคนยินยอมกลับ ไม่มีการใช้กำลัง ขณะ เลขาฯ  สมช.บินไปส่งด้วยตัวเอง วิดีโอคอลกลับมา เผย ส่งกลับครั้งนี้ต่างจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่มีพันธนาการใดๆ เตรียมไปเยี่ยมชาวอุยกูร์ที่กลับมาก่อนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว

วันนี้ (27 ก.พ.) เวลา 19.30 น. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสรพงค์ ศรียานงค์รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมแถลงกรณีการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับจีน


นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า การแถลงข่าววันนี้ เนื่องจากต้องการชี้แจงว่า การส่งกลับตัวชาวอุยกูร์ ทุกกระบวนการ รัฐบาลได้มีการวางแนวทางในการดำเนินการ และเป็นไปตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทำร้ายและการกระทำที่ทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 เพื่อให้ชาวอุยกูร์กลับสู่มาตุภูมิและพบกับครอบครัว ยืนยันว่า ไทยไม่อยากกักตัว และรัฐบาลจีนมีการร้องขอมา โดยยื่นหนังสือทางการทูตอย่างเป็นทางการ ซึ่งบุคคลเหล่านี้ไม่ได้กระทำความผิดร้ายแรง โดยหากนำตัวกลับไปแล้วจะดูแลอย่างดีและจัดหาอาชีพให้ ซึ่งทางการไทยได้เดินทางไปติดตามตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 7 วันแรกทาง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จะเดินทางไปตรวจสอบด้วยตัวเอง

“กระบวนการครั้งนี้ต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบ ว่า จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ สื่งที่ทุกคนเป็นห่วง รัฐบาลก็เป็นห่วงว่าส่งไปแล้วจะมีปัญหาหรือไม่ หรือส่งเขาไปตายหรือไม่ เป็นต้น กระบวนการที่ทำมาจนสร้างความมั่นใจได้ว่าสิ่งที่ดำเนินการอยู่นี้ถูกต้องตามระเบียบ กฎหมาย ในประเทศ และกฎหมายระหว่างประเทศ และถูกต้องตาม พ.ร.บ.อุ้มซ้อมทรมาน มั่นใจว่าชาวอุยกูร์ที่ส่งกลับไปจะไม่พบกับปัญหาหรือสิ่งที่ทุกคนกังวล” นายภูมิธรรม ระบุ


ส่วนประเด็นที่จีนได้ทำหนังสือมาขอตัวชาวอุยกูร์ ในช่วงเวลานี้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เนื่องจากประเทศจีนทำหนังสือมาโดยให้เหตุผลว่าต้องการตัวพลเมืองของประเทศตัวเองกลับ ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางการไทยเคยส่งตัว กลุ่มผู้ต้องกักชาวอุยกูร์ ซึ่งเป็นหญิงเด็กและคนชรา จำนวน 109 คน ให้ประเทศตุรกีเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา และในทุกปีประเทศไทยพยายามติดต่อหาประเทศที่สามให้ แต่ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ไม่มีประเทศที่สามรับตัวกลุ่มชาวอุยกูร์ที่เหลือกลุ่มนี้ไป ทางการไทยจึงเห็นว่าเป็นการดีในการที่จะส่งตัวกลุ่มเหล่านี้ แต่ต้องเป็นไปตามการต่อรองในการดูแลสวัสดิภาพของกลุ่มคนเหล่านี้ ยืนยันผู้ต้องหาทั้งหมดมีความประสงค์ที่จะเดินทางกลับโดยความสมัครใจ ส่วนจะมีเหตุผลอะไรนั้นไม่สามารถตอบแทนได้ ส่วนการที่ต้องส่งตัวผู้ต้องกักทั้งหมดในช่วงเวลากลางคืน รวมถึงไม่เปิดเผยรายละเอียดนั้น เพราะไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย ในกระบวนการส่งตัว

ด้าน พล.ต.ต.ธนิต กล่าวว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้รับหนังสือจาก สมช. ให้ส่งชาวอุยกูร์กลับจีน และทาง สตม.ได้มีการทำความเข้าใจกับผู้ต้องกักชาวอุยกูร์ ภายใต้ข้อตกลงที่ว่าหากเดินทางกลับไปแล้วทุกคนจะได้รับความปลอดภัย แม้ช่วงแรกจะมีกลุ่มคนบางส่วนไม่ยินยอมแต่ภายหลังที่มีการชี้แจงทำความเข้าใจทุกคนจึงยินยอม โดยการขนย้ายไม่มีการใช้กำลังได้มีการเจรจาพูดคุยจนเป็นที่เข้าใจกับผู้ต้องกักชาวอุยกูร์ทั้งหมดยินยอมกลับประเทศ


พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงมีผู้ต้องขัง ชาวอุยกูร์ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำประเทศไทยอีก 5 คน เนื่องจากมีพฤติกรรมหลบหนีออกจากห้องขัง ซึ่งทางศาลได้มีคำพิพากษาให้จำคุก 7 ปี และจะมีกำหนดพ้นโทษในปี พ.ศ. 2572 โดยหากพ้นโทษออกมาก็จะมีกระบวนการส่งตัวกลับเช่นเดียวกัน

ด้าน นายฉัตรชัย บางขวด เลขาฯ สมช. เปิดเผยผ่านวิดีโอคอลจากประเทศจีน ว่า ตัวเองอยู่ที่เมืองคาซี มณฑลซินเจียง ประเทศจีน โดยการดำเนินการตัวเองได้ไปรอรับที่ประตูเครื่องบิน เมื่อเครื่องบินมาถึงได้ส่งคนป่วยคนแรกซึ่งผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างดีจากแพทย์ ส่วนที่สองได้ไปเยี่ยมชาวอุยกูร์ที่กลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ส่วนชาวอุยกูร์ที่กลับมาวันนี้ได้พาไปที่โรงเรียนฝึกสอนอาชีพโดยมีญาติและครอบครัวมารอรับ จากนั้นตัวเองได้ไปที่โรงพยาบาล โดยนำชาวอุยกูร์ที่มีปัญหาสุขภาพมาตรวจอย่างละเอียด หากผ่านการคัดกรองก็จะส่งกลับบ้าน ส่วนพรุ่งนี้จะเดินทางไปเยี่ยมบ้านชาวอุยกูร์ ซึ่งห่างจากเมืองกว่า 100 กิโลเมตรว่าอยู่อาศัยอย่างไร ทั้งนี้ ยืนยันว่า การส่งกลับในครั้งนี้แตกต่างจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยได้เดินลงมาจากเครื่องบินปกติไม่มีเครื่องพันธนาการใดๆ

ส่วน พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้นำหนังสือสำคัญแปลเป็นภาษาอุยกูร์ ทำให้ชาวอุยกูร์ยินยอมเดินทางกลับด้วยความเต็มใจ ทั้งนี้ จากการไปที่โรงพยาบาลไม่พบบาดแผลหรือส่อว่าถูกทำร้ายแต่อย่างใด การส่งกลับเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี

ขณะที่ นายจิรายุ กล่าวทิ้งท้ายโดยขอโทษสื่อมวลชนและสังคมที่ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นนี้ช้า เนื่องจากภารกิจนี้เป็นภารกิจลับสุดยอด และมีตัวแปรสำคัญ หากมีการเปิดเผยใบหน้าของกลุ่มผู้ต้องกักทั้งหมดอาจจะกระทบกับความปลอดภัยของผู้ต้องกักทั้งหมดได้
















กำลังโหลดความคิดเห็น