ข่าวลึกปมลับ : 'ม็อบชาวนา-ปัญหาปากท้อง' สั่นคลอน 'เพื่อไทย' ชี้อนาคต 'แพทองธาร'

“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทาง สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ตอน 'ม็อบชาวนา-ปัญหาปากท้อง' สั่นคลอน 'เพื่อไทย' ชี้อนาคต 'แพทองธาร'



ศึกในที่ว่าหนักแล้ว มาเวลานี้ศึกนอกก็กำลังทำให้รัฐบาลเดือดร้อนไม่ต่างกัน โดยเฉพาะการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ออกมารวมตัวชุมนุมแสดงความไม่พอใจกับสถานการณ์ราคาข้าวที่ตกต่ำในเวลานี้ ภายหลังราคาข้าวต่อเกวียนเวลานี้ไม่ถึง 1 หมื่นบาท ตกต่ำอย่างถึงขีดสุด

ข้อเรียกร้องของกลุ่มเกษตรกร 7 จังหวัดภาคกลาง ที่เสนอต่อรัฐบาลมีด้วยกัน 3 ข้อ ประกอบด้วย 1.ให้รัฐบาลดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ทำนา โดยกำหนดราคาประกันข้าวที่ 11,000 บาทต่อตัน และกำหนดปริมาณรับประกันราคาไม่เกิน 50 ตันต่อราย 2.ให้รัฐบาลเยียวยาเกษตรกรผู้ทำนาในพื้นที่รับน้ำ โดยจัดสรรเงินชดเชย 300 บาทต่อไร่ต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือนในแต่ละปี เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการเป็นพื้นที่รับน้ำ 3.ยกเลิกมาตรการห้ามเผาตอซังข้าวในพื้นที่ทำการเกษตร เนื่องจากชาวนาที่อยู่ในพื้นที่ไม่มีทางเลือกในการกำจัดฟางข้าวนอกจากการเผาทำลาย หรือขอให้ตั้งงบรับซื้อตอซังข้าว เพื่อช่วยลดภาระชาวนา

สถานการณ์ดังกล่าวได้ถูกขยายไปยังฝ่ายการเมือง เพราะถึงขนาดที่
'แพทองธาร ชินวัตร' นายกรัฐมนตรี พอเห็นถึงสถานการณ์เกิดขึ้น ก็นั่งไม่ติดเก้าอี้แล้ว ต้องเรียกผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าร่วมประชุมมาหารือร่วมกัน

ท่าทีของนายกรัฐมนตรีบอกว่า "รัฐบาลอยู่ข้างชาวนา และพี่น้องเกษตรกรมาโดยตลอด เราพร้อมรับฟังและจะมีมาตรการแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด โดยส่วนหนึ่ง คือการแก้ปัญหาการปลูกข้าวพันธุ์ที่ไม่ได้รับการรับรอง ทำให้ข้าวไม่ได้คุณภาพและราคาต่ำกว่าปกติ ส่งผลต่อราคาข้าวในภาพรวม จึงได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งพัฒนาพันธุ์ข้าวและแจกจ่ายแก่พี่น้องเกษตรกรให้เพียงพอ ส่วนมาตรการระยะสั้นเรื่องการพยุงราคาข้าว วันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) จะออกมาตรการที่ชัดเจน นำเข้าสู่ครม. เพื่ออนุมัติต่อไปค่ะ ขอให้พี่น้องชาวนาและเกษตรกรมั่นใจค่ะว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหานี้ และจะมีมาตรการออกไปโดยเร็วที่สุดค่ะ"

พรรคเพื่อไทยอยู่นิ่งเฉยไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะเวลานี้พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีรากฐานที่มั่นคงเหมือนกับพรรคไทยรักไทยในอดีตที่เพียงแค่ลมปากของ 'ทักษิณ ชินวัตร' จะสามารถเกลี้ยกล่อมให้มิตรรักแฟนเพลงเคลิ้มตามได้ ในทางกลับกัน เวลายิ่งผ่านไปประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เห็นผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันของรัฐบาลชุดนี้ นอกจากการสลับกันเดินสายของรัฐมนตรีเพื่อไปงานอีเว้นท์ออกสื่อ

ปัญหาก็ทับถมมากขึ้นเรื่อย ๆ สะสมกลายมาเป็นความไม่พอใจและฝีก็แตกในที่สุด สะท้อนให้เห็นจากตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ประกาศออกมา ผิดไปจากเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ห่างไกลพอสมควร ด้วยเหตุนี้พรรคเพื่อไทยที่มีฐานเสียงจากกลุ่มเกษตรกรเป็นหลักจึงเริ่มถูกสั่นคลอน

เมื่อประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองที่รุมเร้าพรรคเพื่อไทยในเวลานี้ยิ่งทำให้เมฆฝนยิ่งปกคลุมพรรคเพื่อไทยมากขึ้น เครื่องมือทางการเมืองที่เอาไว้ใช้แก้ไขปัญหาการบริหารราชการแผ่นดินก็ทำได้แบบจำกัดจำเขี่ย เพราะพรรคเพื่อไทยไม่มีได้มีอำนาจต่อรองเหนือกว่าพรรคร่วมรัฐบาลมากนัก การจะรวบเอากระทรวงเศรษฐกิจให้มาอยู่ในความปกครองของพรรคเพื่อไทยก็ทำได้ยาก

พรรคเพื่อไทย ทำได้แค่เพียงการเอาตัวรอดไปเป็นวัน ๆ ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นสถานการณ์ที่พรรคเพื่อไทยไม่เคยเจอมาก่อนเหมือนกัน ดังนั้น ปัจจัยการเมืองที่หลายคนมองว่าเป็นจุดชี้ขาดอนาคตทางการเมืองนั้น อาจจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นก็ได้ โดยม็อบชาวนาอาจเป็นสถานกาณ์ที่กำหนดอนาคตของ 'แพทองธาร' ในอนาคตอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึง

------------------------------

**ขอแนะนำ ThaiTimes โซเชียลมีเดียของคนไทย
ไม่ปิดกั้นเนื้อหา - แชร์รูปภาพและวิดีโอ - ติดตามข่าวสารล่าสุด ได้อย่างอิสระ
มีให้ Download ได้แล้วทั้งในระบบ iOS และใน Android
iOS :https://apps.apple.com/th/app/thaitimes-social/id6502225132
Android :https://play.google.com/store/apps/details...
และhttps://thaitimes.co