MGR Online - รองอธิบดีดีเอสไอ เตรียมส่งหนังสือถึงอัยการค้ามนุษย์ พิจารณาออกหมายจับ“หม่อง ชิตตู” กับพวก คดีค้ามนุษย์ หลังได้พยานหลักฐานตามสมควรเพียงพอแล้ว เชื่อใช้เวลาไม่นาน เพราะคุยกันหลายครั้งแล้ว
วันนี้ (26 ก.พ.) ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าการออกหมายจับ “หม่อง ชิตตู” กับพวก ฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ดีเอสไอ ได้มีการหารือประเด็นดังกล่าวกับพนักงานอัยการมาตลอด ซึ่งฝ่ายพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เห็นว่า พยานหลักฐานมีตามสมควรเพียงพอที่จะนำตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการได้ โดยผู้อำนวยการกองคดีค้ามนุษย์ ดีเอสไอ ได้เสนอเรื่องส่งพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงเพิ่มเติมมาแล้ว เพื่อมีหนังสือไปยังอัยการพิเศษฝ่าย สำนักงานคดีค้ามนุษย์ 1 ตามขั้นตอนกฎหมาย โดยภายในวันนี้ตนจะเสนอ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ลงนามเอกสารเพื่อส่งอัยการพิเศษ พิจารณาพยานหลักฐานขอให้มีการออกหมายจับ
“จากนั้นต้องรออัยการพิเศษฝ่าย สำนักงานคดีค้ามนุษย์ 1 พิจารณาในส่วนของพนักงานอัยการว่าครบถ้วน หรือต้องดำเนินการเพิ่มเติมในประเด็นใดอีกหรือไม่ นอกจากที่ได้หารือกันไว้แล้ว และหากไม่มีอะไรเพิ่มเติมหรือเห็นชอบร่วมกันตามข้อเสนอของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ทางปฏิบัติพนักงานอัยการจะมีหนังสือแจ้งว่าเห็นชอบเพื่อตอบกลับมายังดีเอสไอ ส่วนระยะเวลานั้นเชื่อว่าไม่น่าจะนานมากเพราะมีการพูดคุยกันหลายครั้งแล้ว”
ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวอีกว่า ตามกฎหมาย ป.วิฯ อาญา มาตรา 20 “ถ้าความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทยได้กระทำลงนอกราชอาณาจักรไทย ให้อัยการสูงสุด หรือผู้รักษาการแทนเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ หรือจะมอบหมายหน้าที่นั้น ให้พนักงานอัยการ หรือพนักงานสอบสวนคนใดเป็นผู้รับผิดชอบทำการสอบสวนแทนก็ได้ฯ” ซึ่งการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ให้พนักงานอัยการพิเศษฝ่าย สำนักงานคดีค้ามนุษย์ 1 ต้องร่วมพิจารณา และมีความเห็นร่วมกัน โดยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะต้องฟังคำแนะนำของพนักงานอัยการเป็นหลัก เพราะถือว่าพนักงานอัยการเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ แต่มอบดีเอสไอ ทำแทน ซึ่งหากเมื่อเห็นชอบร่วมกันแล้วพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ก็จะเร่งดำเนินการขอศาลออกหมายจับได้ทันที