ตำรวจ ปอศ.แจ้งข้อหา CEO รับจ้าง 500 บาทจดทะเบียนเปิดบริษัททำธุรกรรมให้มิจฉาชีพหลอกเหยื่อลงทุน เสียหายกว่า 800 ล้าน พบก่อตั้งบริษัทเพียงแค่ 3 เดือน มีเงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท
วันนี้ ( 25 ก.พ.) พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ. สั่งการ พ.ต.ท.ชาญณรงค์ กันยิ่ง, พ.ต.ท.วรพจน์ ลลิตจิรกุล สว.กก.3 บก.ปอศ. เชิญตัว นายกฤษฎา อายุ 23 ปี มาแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ,ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยทุจริตหรือหลอกลวง ,สบคบฟอกเงิน,เปิด หรือ ยินยอมให้บุคคลอื่น ใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ โดยรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิด”
ทั้งนี้มีผู้เสียหายกว่า 50 ราย ถูกหลอกให้ลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชันปลอมที่จัดทำขึ้นมา สร้างความเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 800 ล้านบาท จากการตรวจสอบพบมีการทำกันเป็นขบวนการ อีกทั้งยังพบว่า มีบัญชีธนาคารของบริษัทแห่งหนึ่งคอยทำธุรกรรมทางการเงินให้กับกลุ่มผู้ต้องหา ทั้งที่บริษัทดังกล่าวเพิ่งจดทะเบียนก่อตั้งขึ้นได้เพียง 3 เดือน แต่กลับมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 500 ล้านบาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนขยายผลทราบว่า บริษัทดังกล่าวที่คอยทำธุรกรรมการเงินให้กับกลุ่มคนร้ายนั้น มีนายกฤษฎา ผู้ต้องหารายนี้เป็นกรรมการบริษัท จึงเชิญตัวนายกฤษฎา มาเข้าพบเพื่อสอบปากคำ โดย นายกฤษฎา ให้การรับสารภาพว่า ได้รับว่าจ้างจาก น.ส.พลอย เป็นเงิน 500 บาท แลกกับการใช้ชื่อของตัวเองจดทะเบียนก่อตั้งบริษัท เมื่อได้รับเอกสารเกี่ยวกับบริษัทมาแล้ว ก็ได้นำไปใช้เปิดบัญชีธนาคาร และซิมเบอร์โทรศัพท์ จากนั้นก็นำเอกสารและบัญชีธนาคารทั้งหมดไปมอบให้ น.ส.พลอย โดนไม่ทราบว่าจะนำไปใช้ทำอะไร จึงนำตัวส่งฟ้องตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
