ผบช.ไซเบอร์แถลงขยายผลจับกุมเครือข่ายเว็บพนันรายยักษ์ เงินหมุนกว่า 1.1 หมื่นล้านต่อปี ลุยค้น 4 จุดกลางกรุง ยึดทรัพย์ได้กว่า 35 ล้านบาท
วันนี้ (21 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น.รรท. รอง ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์ขยายผลเว็บพนันรายยักษ์ เงินหมุนกว่า 1.1 หมื่นล้านต่อปี ค้น 4 จุดกลางกรุงเทพฯ ยึดทรัพย์กว่า 35 ล้านบาท
พล.ต.ต.ศรายุทธ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.2 สามารถขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในเครือข่ายได้นับ 10 ราย และนำมาสู่การจับกุมผู้จัดการด้านการเงินและผู้ทำหน้าที่กดเงินสดได้ 2 ราย พร้อมตามจับกุมบัญชีม้าได้อีก 3 ราย และตรวจยึดของกลางเป็นเงินสดจำนวน 3,956,500 บาท
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนพบข้อมูลว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ได้นำเงินไปให้ นายท็อป (นามสมมุติ) ที่เป็นผู้รับผลประโยชน์ (เจ้าของเว็บ) เฉลี่ยเดือนละ 4 ครั้ง ครั้งละหลักล้านบาท โดยทั้งสองได้ค่าตอบแทนเดือนละ 30,000-50,000 บาท และได้ค่าตอบแทนจากการกดเงินออกจากบัญชีอีกครั้งละ 5,000 บาท ชุดสืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ นายคณพล (สงวนนามสกุล) หรือนายท็อป เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีในข้อหาจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์และพ.ร.บ.ฟอกเงิน
กระทั่งวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้นำกำลังพร้อมหมายค้นเข้าตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่ กทม. จำนวน 4 จุด แต่จากการตรวจค้นยังไม่พบตัว นายท็อป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดของกลางซึ่งเชื่อว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์และฟอกเงิน อาทิ รถยนต์หรู 5 คัน เงินสด เงินสกุลต่างประเทศ โฉนดที่ดินอาวุธปืนลูกซองยาว อาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ตุ๊กตาแบร์บริค ตุ๊กตามอลลี่ เป็นต้น รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดประมาณ 35 ล้านบาท
เบื้องต้นจากการตรวจค้นในจุดที่สี่ ซึ่งเป็นห้องพักคอนโดฯ หรูย่านทองหล่อ พบตัวแฟนสาวของนายท็อป ลักษณะกำลังเตรียมตัวจะออกเดินทาง จึงได้เชิญตัวมาสอบปากคำ และจากการสอบปากคำตัวแฟนสาวให้การว่า กำลังจะออกเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเวียดนาม โดยที่ผ่านมาตนได้รับเงินเดือนจากนายท็อปเดือนละ 200,000-300,000 บาท และติดต่อกันมาอยู่ตลอด โดยครั้งสุดท้ายที่ได้พบเห็นคือเมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลว่า นายท็อปได้เดินทางหลบหนีออกนอกประเทศไปที่ประเทศเวียดนามก่อนหน้านี้แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างประสานประเทศปลายทางเพื่อให้ติดตามจับกุมตัวกลับมาดำเนินคดีต่อไป
