ตำรวจกองปราบบุกรวบเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคพร้อมเครือข่ายลักไฟหลวงขุดเหมืองบิทคอยน์ ทำรัฐเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
วันนี้ ( 21 ก.พ.) พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ, พ.ต.ท.หัตถพล ทองคำ, พ.ต.ท.ณัติรุจน์ วัฒนะฉัตรรัตน์ ,พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย รอง ผกก.5 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายไกรลาศ อายุ 25 ปี ,นายณัฐพลฯ อายุ 37 ปี ,นายจีรพงษ์ อายุ 30 ปี,น.ส.อัมพกา อายุ 39 ปี,นายภราดร อายุ 40 ปีตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นฯและร่วมกันทำให้เสียทรัพย์” และจับกุม นายณัฐพงศ์ อายุ 39 ปีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ข้อหา “ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ฯ, เป็นพนักงานเรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ อื่นใดสำหรับตนเองหรือสำหรับผู้อื่นโดยมิชอบฯ” ได้ในพื้นที่จ.ปทุมธานี ,นครสวรรค์, สุราษฎร์ธานี และ จ.นครปฐม
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7 พ.ย.67 ตำรวจกองปราบปราม ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เข้าตรวจค้นบ้านต้องสงสัยจำนวน 9 หลัง ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี หลังลักลอบติดตั้งเครื่องขุดเงินสกุลดิจิทัลกว่า 111 เครื่อง และได้ดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้า เพื่อให้วัดค่าปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้าได้น้อยกว่าความเป็นจริง ต่อมาได้ขยายผลจนพบเครือข่ายผู้กระทำความผิด ทั้งในส่วนของผู้เชื่อมต่อระบบไฟฟ้ากับเครื่องขุดเงินสกุลดิจิทัล (ผู้ดูแลเครื่อง), ช่างดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้า, ผู้ลงทุนซื้อเครื่องขุดเงินสกุลดิจิทัลเพื่อไปติดตั้งไว้บริเวณสถานที่ ที่มีการลักไฟฟ้า จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับไว้
ส่วนนายณัฐพงศ์เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ฝ่ายมิเตอร์และหม้อแปลง ซึ่งรับผิดชอบมิเตอร์ในพื้นที่โรงงานไม้แปรรูปแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ที่ถูกตำรวจกองปราบจับกุมคดีลักกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้สำหรับเครื่องขุดเงินสกุลดิจิทัลกว่า 97 เครื่อง ได้มีพฤติกรรมเรียกรับสินบนเพื่อปกปิดข้อมูลการใช้ไฟฟ้าที่แท้จริง จึงได้เปิดปฏิบัติการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้งเครือข่าย
สอบสวนผู้ต้องหาที่เป็นผู้ลงทุนซื้อเครื่องขุดเงินสกุลดิจิทัลรับว่าเป็นผู้ลงทุนซื้อเครื่องฯไปวางไว้ตามจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดได้ก่อนหน้านี้จริง แต่ไม่ทราบว่าผู้ดูแลเครื่องฯ ใช้วิธีการลักไฟฟ้ามาเพื่อใช้ในการขุดเงิน ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก. 5 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป