“กัน จอมพลัง” บุกบ้าน “เม้ง โอริโอ้” หลังถูกด่าว่าเป็นคนขายบะหมี่โง่ และเหยียดคนอีสาน ขณะที่แม่ร้องให้เปิดใจขอโทษ ไม่รู้ลูกไปทำอะไรไว้
วันนี้ (6 ก.พ.) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของ “เม้ง โอริโอ้” หรือเผือก หรือเจมส์ ภายในซอยพุทธบูชา 39 เขตจอมทอง กรุงเทพฯ ลักษณะเป็นห้องเช่าหลังตลาดนัด ซึ่งนายเม้งซังเป็นคนที่พูดจาเหยียดคนอีสาน นอกจากนี้ ยังได้ต่อว่ากัน จอมพลัง ว่า เป็น “คนขายบะหมี่โง่ๆ เดี๋ยวกูโบ้หน้าให้” อีกด้วย
นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า วันนี้ตั้งใจจะมามอบให้เม้ง โบ้หน้าเข้าที่ขมับซ้ายเลย เพราะเห็นว่ามีการพูดจาเหยียดคนอีสาน บอกว่า เสื้อตัวเดียว สร้างบ้านให้คนอีสานได้ และยังบอกว่า เล่นกีฬาเทนนิส นอนกอดไม้เทนนิสเลย จึงขอมาดูบ้านของสุลต่านหน่อยว่าเป็นยังไง นอกจากนี้ ยังพบว่า นายเม้ง มีประวัติการหนีทหารอีกด้วย ทั้งนี้ เมื่อมาถึงปรากฏว่า ตัวนายเม้งไม่อยู่ที่บ้าน จึงติดต่อโทรศัพท์ไปหาแม่ของนายเม้ง
โดยแม่ของนายเม้ง เปิดใจผ่านโทรศัพท์และร้องไห้ออกมาว่า อยากจะขอโทษกันจอมพลังและสังคมที่ลูกก้าวร้าว โดยพฤติกรรมและคำพูดของลูกแม่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ลูกตัวเองมีการไปด่าดูถูกเหยียดหยามคนอีสาน ด่ากันจอมพลัง และด่าพี่หนุ่ม กรรชัย เนื่องจากลูกชายจะเช่าห้องอยู่ข้างๆ และไปๆ มาๆ จึงไม่ได้มีการพูดคุยกันเป็นพิเศษ เนื่องจากแม่ทำงานหาเช้ากินค่ำ ไม่ได้เป็นคนรวยอะไร เม้งหายออกไปจากบ้านตั้งแต่เกิดเรื่องและไม่กลับมาที่บ้านเป็นอาทิตย์แล้ว
เมื่อวานแม่ยังกู้เงินเจ้าหนี้มา 10,000 บาท และจะต้องจ่ายรายวันร้อยละ 20 ด้วย ต้องทำงานส่งหนี้วันละ 1,000 บาท ซึ่งที่ผ่านมา ลูกชายก็ไม่ได้มาช่วยทำมาหากินและก็ไม่ได้ทำงานอะไร พอมาให้ช่วยทำงาน ก็ทำได้แป๊บเดียว บอกว่า ร้อน แล้วก็เข้าห้องไป ในบางครั้งก็มาขอเงินตนทีละ 100 บาท และไม่มีเงินมาเลี้ยงส่งดูแลลูกเลย ทุกวันนี้เหนื่อยมากๆ แม่ขอโทษแทนลูกด้วย ที่มันล่วงเกิน และแม่ไม่ได้เห็นด้วย แต่พี่สาวมาบอกว่า เม้งมันไปเล่นของแรงแล้ว
แม่ของนายเม้งบอกอีกว่า ลูกชายเป็นคนไม่รู้หนังสือ ไม่ได้เรียนหนังสือตั้งแต่ประถมแล้ว ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครเลี้ยงดู ส่วนใหญ่ก็ดูแลตัวเอง ถ้าหากลูกฟังอยู่ ก็ให้กลับตัวเป็นคนดี อะไรที่ทำพลาดไป ก็รับกรรมนั้นไว้ ปากเสียอะไรก็ต้องรับผิดชอบ
นอกจากนี้ กัน จอมพลัง กล่าวอีกว่า หลังจากที่ได้คุยกับแม่ก็รู้สึกสงสารแม่มาก เพราะว่าต้องทำงานหาเงิน และปัจจุบันแม่ก็อายุประมาณ 60 กว่าแล้ว จะต้องทำงานเพื่อส่งหนี้รายวันอีก ลูกชายก็ไม่ได้มาช่วยอะไร อยากจะให้สังคมแยกแยะว่า แม่กับลูกคือคนละคนกัน ก่อนหน้านี้ ตนก็ได้ถามแม่แล้วว่า ถ้าหากจะดำเนินการกับสิ่งที่ลูกชายทำ แม่ยินยอมหรือไม่ ตัวแม่เองก็ยินยอมให้ลูกรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป
อย่างไรก็ตาม วันนี้ตนเองเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยเป้าหมายภารกิจแรก คือ อยากมาเยี่ยมบ้านนายเม้ง ที่ด่าดูถูกชาวอีสาน และด่าตนและพี่หนุ่ม กรรชัย ด้วย ซึ่งพอเดินทางมาถึงก็พบว่า เม้งอาศัยอยู่กับแม่ภายในห้องเช่าและตนได้คุยกับแม่รู้สึกสงสารแม่ของเม้งมาก เพราะต้องทำงานหาเงิน เพียงลำพังโดยที่นายเม้งลูกชายไม่เคยช่วยเหลือเลย
ทั้งนี้ อยากฝากถึงแก๊งโอริโอ้ ว่า สิ่งที่พวกคุณทำกับคนอื่น ค้นทะเบียนราษฎร ตามไปยันบ้าน ไม่ใช่แค่พวกคุณที่ทำได้ ผมก็ทำได้ แต่ผมแยกแยะออก ผมรู้แม้กระทั่งว่า พ่อของบางคนมีคดีร้ายแรงอยู่ด้วย แต่ผมไม่อยากยุ่ง เพราะผมแยกแยะออก ระหว่างการกระทำของตัวเด็กกับผู้ปกครอง โดยหลังจากนี้จะเดินทางไปบ้านแก๊งโอริโอ้รายอื่นๆ ต่อไป