รอง ผบ.ตร. เปิดศูนย์ปราบผู้มีอิทธิพล-มือปืนรับจ้าง เรียกชุดทำงานหารือกำหนดแนวทาง ตั้ง 17 มูลฐานความผิดอาทิ นายทุนเงินกู้-ฮั้วประมูล-โต๊ะพนัน-มือปืนรับจ้าง-ค้ายานรก สั่งเอกซเรย์กลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ ซัดหากเจ้าหน้าที่รัฐไม่ช่วยหนุนหลัง พวกนี้ไม่มีวันเติบโต เร่งกวาดล้างทั้งขบวนการ รวมถึงขยายผลเล่นงานคดีฟอกเงิน ยึดทรัพย์
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ปราบผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและผู้ร้ายรายสำคัญ โดยมี พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ เจ้าหน้าที่เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียงกัน
พล.ต.อ.ประจวบ กล่าวว่า สำหรับศูนย์ดังกล่าวจัดตั้งขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล โดยทาง ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ตนเป็นผู้อำนวยการศูนย์ โดย พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี เป็นรอง ผอ. และ มี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช เป็นเลขาฯ ในวันนี้ จึงถือโอกาสเรียกประชุมคณะทำงานทั้งหมดเพื่อหารือกำหนดแนวทางขับเคลื่อนการทำงานของศูนย์
พล.ต.อ.ประจวบ กล่าวต่อว่า โดยความผิดมูลฐานหลักๆ ที่เข้าข่ายผู้มีอิทธิพล จะมีอยู่ประมาณ 17 มูลฐานความผิด อาทิ นายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ, ผู้มีอิทธิพลในการฮั้วประมูล, ผู้มีอิทธิพลเรียกรับผลประโยชน์จากคิวรถจักรยานยนต์, ผู้มีอิทธิพลลักลอบจัดให้มีบ่อนการพนัน โต๊ะพนันบอล, ผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้าง, ผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ส่วนจะมีพื้นที่เป้าหมายเฝ้าระวังเป็นพิเศษหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่ได้กำหนด ยังคงเน้นครอบคลุมทุกพื้นที่ ส่วนแนวทางทำงานหลักๆ จะมุ่งเน้นไปที่บุคคลตามหมายจับในคดีที่เกี่ยวข้องกับ 17 มูลฐานความผิด รวมไปถึงกลุ่มบุคคลที่ไม่มีหมายจับ แต่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับความผิดทั้ง 17 มูลฐาน เพราะถึงแม้ตัวเองจะไม่มีหมายจับ แต่ก็อาจมีบริวาลหรือเครือข่ายที่กระทำความผิดจึงจำเป็นต้องส่งทีมงานลงไปตรวจสอบเก็บรวบรวมข้อมูลแล้วส่งกลับมาวิเคราะห์
“ผู้มีอิทธิพลเหล่านี้จะไม่สามารถอยู่ได้เลยถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปหนุนหลังหรือให้การช่วยเหลือ ดังนั้น ใครที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนเหล่านี้จะต้องจัดการให้หมด เราจะกวาดล้างทั้งขบวนการ รวมถึงขยายผลไปจนถึงขั้นดำเนินคดีฟอกเงินยึดทรัพย์ ประชาชนไม่ต้องเป็นกังวลทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย และ ขอให้เชื่อใจคณะทำงานชุดนี้ล้วนมีแต่มืออาชีพ” พล.ต.อ.ประจวบ กล่าว
พล.ต.อ.ประจวบ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ศูนย์จะคอยเป็นแบ็กอัพสนับสนุนตำรวจทุกพื้นที่ หากพื้นที่ใดตำรวจท้องที่เกรงใจผู้มีอิทธิพล เราก็จะส่งตำรวจสอบสวนกลางลงไปช่วย ซึ่งหลังจากนี้จะให้ทุกหน่วยไปเอกซเรย์ทุกพื้นที่ แล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ โดยจะพิจารณาเป็นรายๆ ว่า พื้นที่ไหนมีใครบ้างที่เข้าข่ายเป็นอันตรายต่อสังคม
เมื่อถามว่า ตอนนี้คณะทำงานได้กำหนดความสำคัญมูลฐานความผิดใดเป็นพิเศษหรือไม่ พล.ต.อ.ประจวบ ตอบว่า ทุกมูลฐานความผิดสำคัญหมด แต่ที่พบเจอบ่อยๆ ส่วนใหญ่จะเป็นยาเสพติด การพนัน และ ฮั้วประมูล ทั้งนี้ฝากไปถึงพี่น้องประชาชนหากใครมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้กระทำผิด ก็สามารถแจ้งเบาะแสเข้ามาได้ ไม่ต้องกังวล ส่วนใครที่รู้ตัวว่ากระทำผิดอยู่ก็ขอให้เลิก เพราะเราเอาจริง