จากกรณีเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (รรท.ผบช.ภ.1) ได้เข้าตรวจเยี่ยมและประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี โดยเฉพาะบริเวณถนนรัตนาธิเบศร์ และถนนงามวงศ์วาน ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่มีปัญหาการจราจรหนาแน่นในช่วงเวลาเร่งด่วน
การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ โดยมี พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ ดร.ชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ “ดร.แก้ว” ผู้ทรงคุณวุฒิประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และประธาน กต.ตร.จังหวัดนนทบุรี พร้อมคณะ กต.ตร. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
ที่ประชุมมีมติเปิด “ช่องทางพิเศษ” เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด บนถนนรัตนาธิเบศร์ และถนนงามวงศ์วาน (ขาออก) ตั้งแต่ทางขึ้นสะพานข้ามแยกแคราย ไปจนถึงทางลงสะพานแยกพงษ์เพชร (ขาเข้า กทม.) ระยะทาง 3.3 กิโลเมตร โดยกำหนดเวลาเปิดใช้งานช่วงเช้า ตั้งแต่เวลา 06.00 - 07.30 น. (เว้นวันหยุดราชการหรือปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม) และจะเริ่มเปิดใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป
ล่าสุดวันนี้ (5 กุมภาพันธ์ 2568) พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน รรท.ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.เจษฎา สวยสม รรท.ผบก.น.2 พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อติดตามผลหลังเปิดใช้งานช่องทางพิเศษ โดยเบื้องต้นพบว่าการจราจรโดยรวมมีสภาพคล่องตัวขึ้น ลดปัญหาการติดขัดในช่วงเช้าของวันทำงานได้ระดับหนึ่ง แต่ยังคงต้องมีการปรับปรุงบางจุดเพื่อให้การระบายรถเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
พ.ต.อ.เจษฎา กล่าวว่า ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการกำชับให้ดูแลปัญหาการจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดรอยต่อที่มีปัญหาการจราจรติดขัดหนัก โดยเฉพาะถนนงามวงศ์วานซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่มีประชาชนใช้สัญจรหนาแน่นทั้งช่วงเช้าและเย็น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่นนทบุรีและนครบาลจึงได้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหานี้ โดยตำรวจทางหลวงจะรับช่วงต่อจากนนทบุรี เมื่อเข้าสู่เขตรับผิดชอบของ สน.ทุ่งสองห้อง และ สน.บางเขน เพื่อให้การจราจรต่อเนื่องและลดปัญหาคอขวด ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนที่เดินทางในช่วงเช้าและเย็น ให้ปฏิบัติตามกฎจราจร และขอให้มั่นใจว่าทางตำรวจได้รับทราบปัญหา และอยู่ระหว่างปรับแผนการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ด้านพล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณทางผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และทีมงานที่เข้ามาร่วมจัดการปัญหาจราจรในพื้นที่นนทบุรี ซึ่งนโยบายเปิดช่องทางพิเศษนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างตำรวจภูธรภาค 1 และตำรวจนครบาล เพื่อช่วยให้ประชาชนเดินทางได้สะดวกขึ้น ทั้งช่วงเช้าก่อนไปทำงานและช่วงเย็นขณะเดินทางกลับบ้าน โครงการนี้เป็นแนวทางที่ดีในการแก้ปัญหาจราจรติดขัด แต่ในระยะแรกอาจมีข้อบกพร่องบางจุดที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติม วันนี้จึงต้องมีการลงพื้นที่ติดตามผลจริง เพื่อดูว่าจุดไหนต้องปรับปรุง เราขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าทางตำรวจให้ความสำคัญกับปัญหานี้ และจะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ทุกคนเดินทางได้สะดวกและปลอดภัย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการประเมินผลการเปิดช่องทางพิเศษอย่างต่อเนื่อง หากพบว่ามีจุดใดที่ยังเป็นปัญหาหรือส่งผลกระทบต่อการจราจรในภาพรวม ก็จะมีการปรับปรุงแก้ไขให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป
