xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กอ้อ” สั่งเร่งล่าคนร้ายชิงทอง 113 บาท พบร้านเคยถูกก่อเหตุมาแล้ว 6 ครั้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ผู้ช่วย ผบ.ตร.สั่งเร่งติดตามตัวคนร้ายชิงทอง 113 บาท ในห้างดังย่านคลอง 5 ตรวจสอบพบร้านทองเคยถูกก่อเหตุมาแล้ว 6 ครั้ง ในรอบ 10 ปี

วันนี้ (4 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดีคนร้ายบุกชิงทองในร้านทองกลางห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านคลอง 5 อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณไปประมาณ 113 บาท หรือคิดเป็นเงินประมาณกว่า 5 ล้านบาท โดยประชุมร่วมกับตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ตำรวจ สภ.ลำลูกกา และตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดี ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 โดยใช้เวลาการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง

โดย พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวภายหลังการประชุม ว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก มีพยานหลักฐานที่พบเห็นและสิ่งที่เก็บรวบรวมมา มีประโยชน์มากพอสมควรที่สามารถเร่งรัดการดำเนินคดีได้ ส่วนตัวคนร้ายอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบ และขณะนี้มีข้อมูลมากพอที่จะดำเนินการขั้นต่อไปแล้ว แต่ยังไม่ถึงขั้นออกหมายจับต้องสืบสวนให้แน่ชัดเพื่อทำการพิสูจน์ทราบให้ชัดเจนก่อน

ขณะที่พฤติการณ์ของคนร้าย พบว่า เข้ามาบังคับให้อยู่เฉยๆ แต่ในขณะนั้นพนักงานของร้านเกิดความเกรงกลัวในภาวะจำยอม จึงปล่อยให้คนร้ายนำทรัพย์สินไป และพนักงานเป็นผู้หญิง แค่เห็นว่ามีชายฉกรรจ์ลักษณะนี้มาแย่งชิงทรัพย์สินในร้าน เขาเห็นอยู่แล้วว่าถ้าต่อสู้และไม่จำยอมอาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายและชีวิต และจากภาพกล้องวงจรปิด คนร้ายไม่ได้หยิบอาวุธมาโชว์ แต่สันนิษฐานได้ว่าคนร้ายมีอาวุธอยู่ที่ตัวแต่ยังไม่ได้หยิบมาขู่

ส่วนพนักงานร้านจะมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องทำการพิสูจน์ทราบ ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ เบื้องต้นพบว่า คนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว ส่วนการก่อเหตุ และหลบหนีพบว่า คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบรุ่นและยี่ห้อให้ชัดเจน และยังอยู่ระหว่างการสืบสวน ว่าหลบหนีไปที่ใด หรือยังอยู่ในพื้นที่หรือไม่

พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวอีกว่า ผบ.ตร.ได้กำชับให้เร่งรัดติดตามคดีให้เร็วที่สุดเพื่อสร้างความเชื่อมั่น แต่ยังตอบไม่ได้ว่า จะขอหมายจับได้ภายใน 1-2 วันนี้หรือไม่ และจากการประชุมพบว่า คนร้ายจะมีความผิดในข้อหาชิงทรัพย์ โดยหลังจากนี้จะมีการเชิญพยานที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพิ่มเติม และหลังจากออกหมายจับ จะมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนให้ช่วยชี้เบาะแสอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ตำรวจมีมาตรการรักษาความปลอดภัย ถือเป็นมาตรการหลักอยู่แล้ว โดยเฉพาะจุดเสี่ยง มีแผนการปฏิบัติอยู่แล้ว และครั้งนี้ เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นก็จะต้องสืบสวนจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ทั้งนี้นี้จากการตรวจสอบพบว่า ร้านทองดังกล่าว เคยถูกก่อเหตุชิงทองมาแล้ว 6 ครั้ง ในรอบ 10 ปี หลังจากนี้ จะมีการเชิญผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้องมาพูดคุยหารือเพื่อปรับแนวทางในการวางแผนป้องกันต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น