ปฏิบัติการ “หักเหลี่ยมเจ้าพ่อ”ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ร่วมกับ ชุดปฏิบัติพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดนครนายก บุกจับบ่อนกลางทุ่งหน้า ยึดของหลางมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท นำตัวเซียนพนัน 218 คน นำตัวส่งพนักงานสอบสวน
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 22.30 นาฬิกา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง บูรณาการร่วมกับนายชานน วาสิกศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก นำกำลังจัดชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดนครนายก และชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอองครักษ์ นำโดยนายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ นายอิสรา เจริญชาศรี ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน นายอำเภอองครักษ์ และนายศักดิ์ชัย โรจนรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกว่า 60 นาย
บุกทลายบ่อนการพนันกลางทุ่งนา ซึ่งลักลอบเปิดทำการภายในพื้นที่จังหวัดนครนายก โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จากการเข้าปฏิบัติการในครั้งนี้ พบนักพนันกว่า 200 คน ของกลางเป็นเงินสดและชิปแทนเงินสด รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท อุปกรณ์การเล่นการพนันอีกเป็นจำนวนมาก อุปกรณ์เซิฟเวอร์และกล้องวงจรปิดจำนวนกว่า 30 ตัว รวมทั้ง ตู้เซฟนิรภัยขนาดใหญ่
ทั้งนี้ศูนย์ปฏิบัติบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครองได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่าภายในจังหวัดนครนายก มีการเปิดบ่อนการพนันโดยผิดกฎหมายและลักลอบเล่นการพนันตลอด 24 ชั่วโมง อยู่กลางทุ่งนาเพื่อหลบเลี่ยงการจับกุม โดยแต่ละวันจะมีนักพนันนับร้อยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้าไปเล่นจากหลายจังหวัด โดยมีการจัดรถรับ-ส่ง ไม่ว่าจะเป็น รถแท็กซี่ รถมินิบัส รถตู้ ภายหลังการเข้าตรวจค้น จับกุม พบนักพนันและเจ้ามือ จำนวนรวม 218 คน ของกลางเป็นเงินสด 560,570 บาท และชิพแทนเงินสด 2,444,000 รวมทั้งสิ้น 3,004,570 บาท และอุปกรณ์การเล่นการพนันอีกเป็นจำนวนมาก จำนวนรถยนต์ภายในบ่อน รวม 50 คัน
โดยดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาดังนี้ 1. ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นเพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามมาตรา 4, มาตรา 4 ทวิ, มาตรา 5, มาตรา 10 ประกอบมาตรา 12 (2) แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2. ร่วมกันเข้าเล่นหรือเข้าพนันเพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามมาตรา 4, มาตรา 4 ทวิ, มาตรา 5, มาตรา 10 ประกอบมาตรา 12 (2) แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จากนั้นได้นำตัวผู้ถูกจับทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุม ณ ที่ทำการปกครองอำเภอองครักษ์ โดยแจ้งข้อกล่าวหาในข้อหาร่วมกันลักลอบจัดให้มี หรือเข้าเล่น หรือเข้าพนันโดยผิดกฎหมาย พร้อมนำตัวผู้ถูกจับทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.องครักษ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
