xs
xsm
sm
md
lg

‘อิศรากรณ์ สุวรรณทิพย์’ กับสูตรสำเร็จขับเคลื่อนชีวิตสู่การเป็นผู้ประกอบการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวคุณภาพชีวิต



ในโลกทุกวันนี้ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย สับสน ผู้คนหลากหลายเชื้อชาติซึ่งกำเนิดจากความต่างทางสังคม ต่างรสนิยม และต่างวัฒนธรรม ได้หลั่งไหลมาอาศัยอยู่ร่วมกัน จนทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางต้นทุนของชีวิต ด้วยเหตุที่แนวคิด รวมถึงแนวทางการดำเนินชีวิตของแต่ละบุคคลล้วนแตกต่างกัน

นายอิศรากรณ์ สุวรรณทิพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียวาณิช จำกัด ก็ถือเป็นอีก 1 ในต้นแบบของนักสู้ ที่ฝ่าฟันสารพัดอุปสรรคนานัปการ จนสามารถประสบความสำเร็จในฐานะผู้ประกอบการด้วยรากฐานชีวิตที่มีแค่ศูนย์

สูตรสำเร็จที่สร้างความสมบูรณ์ จากต้นทุนชีวิตติดลบขึ้นมาได้ นายอิศรากรณ์ บอกว่า มนุษย์ในสังคมจะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข จุดเริ่มต้นคือการเลือกคิดและทำสิ่งดีๆ เลือกเพื่อน เลือกคู่ชีวิตที่ดี มีปฏิสัมพันธ์ต่อกันบนพื้นฐานของการเอื้อเฟื้อ แบ่งบัน และการให้โอกาส

ผมเชื่อเสมอว่า มนุษย์เราไม่มีใครเลือกเกิดได้ แต่เราสามารถที่จะเลือกทางเดินชีวิตได้ ดังนั้นอาวุธที่สำคัญที่สุดนั่นคือความรู้ที่ได้จากการศึกษา และสิ่งที่จะปกป้องเราให้อยู่รอดปลอดภัย คือ ความมีวินัยและความซื่อสัตย์

ชีวิตในวัยเด็กผมต้องถือว่า ยากจนมาก เกิดมาเป็นลูกคนที่ 7 ในบรรดาพี่น้องรวม 9 คน เกิดในครอบครัวเกษตรกร มี นายวอน และ นางสมจิตร สุวรรณทิพย์ เป็นบิดามารดา ทำไร่ทำนาในพื้นที่ชนบท อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช

หลังจบการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาโรงเรียนบ้านพรุวง ก็ได้ไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ พระครูไพศาลธรรมโสภณ หรือที่ชาวบ้านขนานนามท่านว่า พ่อท่านเลื่อน อดีตเจ้าอาวาส วัดวังรีบุญเลิศ ซึ่งเป็นวัดประจำบ้านเกิด

ตอนนั้นได้บรรพชาเป็นสามเณรด้วยวัย 13 ปี ที่วัดหาดสูง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ก่อนย้ายไปอยู่สำนักเรียนวัดบ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ศึกษาทางธรรมจนจบการศึกษานักธรรมชั้นเอก อยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ นาน 4 พรรษา ก็ลาสิกขามาเรียนทางโลกต่อ กศน.ที่ กรุงเทพฯ จนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6

นายอิศรากรณ์ บอกอีกว่า หลังจบ กศน.จึงตัดสินใจเลือกศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ศิลปศาสตร์บัณฑิต วิชาเอกภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา จบออกมาได้โอกาสไปศึกษาเรื่องงานขายสื่อการเรียนการสอน

ปัจจุบันเป็นผู้ประกอบการด้านสื่อการเรียนรู้ ผมรู้สึกโชคดีที่มีครอบครัว และคนรอบข้างที่ดี มีความเข้าใจ รักและเมตตา ทั้งแนะนำ ช่วยเหลือ ทุกช่วงเวลาของชีวิต หลายครั้งรู้สึกปลื้มปิติที่ได้นำประสบการณ์ที่ตัวเองพบเจอมาถ่ายทอดเพื่อเป็นแรงผลักดันให้เกิดเมล็ดพันธุ์รุ่นใหม่ขึ้นในสังคม

และการที่เราจะเป็นผู้นำทั้งทางด้านอารมณ์และสติปัญญา พร้อมนำพาสังคมเข้าสู่จุดที่ถูกต้อง อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและรู้สึกปลอดภัย เริ่มจากตัวเราจะต้องไม่สร้างความเดือนร้อนให้กับตนเอง และผู้อื่น มองความคิดเห็นของคนรวบตัว โดยใช้หลักการเจรจาเพื่อก่อให้เกิดสันติภาพ

แม้คู่สนทนาจะเห็นต่าง หรือแม้แต่คู่สนทนาจะเป็นศัตรู เราก็ต้องใช้วิธีการเจรจาเพื่อก่อให้เกิดความสงบสุข นอกจากนั้นหลักคิดเหล่านี้ยังนำมาประยุกต์เพื่อเปิดกลยุทธ์องค์กร พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนมุมมองด้านความท้าทาย เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้เจริญเติบโตได้อีกด้วย

สูตรการใช้ชีวิตของมนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่ง ผมมองว่า ไม่ได้มีอะไรยากเย็น นอกจากการเลือกใฝ่ดีด้านความคิด เลือกมิตร และเลือกคู่ชีวิตที่ดีแล้ว การรู้จักความกตัญญูต่อบุพการีและผู้มีพระคุณ รู้จักแบ่งบันตอบแทน และการให้โอกาสผู้ยากไร้โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาอย่างที่ผมเคยได้รับมาก่อนก็สำคัญไม่แพ้กัน

เพราะความรู้เหล่านั้นจะเป็นประตูสู่ความสำเร็จให้ชีวิตของผู้ได้รับ เป็นประโยชน์ส่งต่อให้แก่ครอบครัว สามารถต่อยอดไปถึงความอุดมสมบูรณ์ ความเข้มแข็งทางสังคม และประเทศชาติก็ได้พัฒนาขับเคลื่อนร่วมกันอย่างยั่งยืนต่อไป.


















กำลังโหลดความคิดเห็น