ศาลอาญาให้ประกัน “แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์” ฉ้อโกงขายทองไม่ตรงปก สั่งติดกำไลอีเอ็ม-ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ห้ามให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีออกสื่อเด็ดขาด ชี้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลง จำเลยถูกขังมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว ทั้งนำเงินมาวางศาลเพื่อบรรเทาความเสียหายเต็มตามฟ้อง จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (31 ม.ค.) ศาลอาญาได้มีคำสั่งพิจารณาคำร้องขอประกันตัว คดีไลฟ์สด " ขายทองไม่ตรงปก” หมายเลขดำ อทย.582/2567ที่อัยการสำนักงานคดีอาญายื่นฟ้อง บริษัท เคทเอ็นโกลด์ จำกัด โดย นายกานต์พล เรืองอร่าม หรือ ป๋าเบียร์ ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจ ผู้ต้องหาที่ 1, นายกานต์พล เรืองอร่าม ผู้ต้องหาที่ 2, น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือ แม่ตั๊ก ผู้ต้องหาที่ 3 ฐาน"ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่นำจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บรีโภค โดยเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ บริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่น โฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อความที่รู้หรือควรรรู้อยู่แล้วว่าอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเช่นว่านั้น, ร่วมกันขายสินค้าที่ควบคุมฉลากโดยไม่มีฉลากหรือมีฉลากแต่ฉลากหรือการแสดงฉลากนั้นไม่ถูกต้อง และร่วมกันประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343,83,91 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1) พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 22, 30,47,52 พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 27, 47 ที่แก้ไขแล้ว
ศาลอาญาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ข้อหาที่นายกานต์พล จำเลยที่2 และ น.ส.กรกนก จำเลยที่ 3 ถูกฟ้องมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ระหว่างสอบสวนจำเลยที่ 2 และที่ 3 ถูกขังมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ทั้งนำเงินมาวางศาลเพื่อบรรเทาความเสียหายเต็มตามฟ้อง ผู้เสียหายมีเพียง 36 คน พฤติการณ์ณ์แห่งคดีเปลี่ยนแปลงไป เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง วางหลักประกันเป็นเงินสดคนละ 2 ล้านบาท และยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนด หากได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวเชื่อว่าจะไม่หลบหนี จึงมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 2 และที่ 3 ระหว่างพิจารณา
โดยศาลกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยที่ 2 และที่ 3 นำข้อมูลเกี่ยวกับคดีนี้ออกสื่อสังคมออนไลน์และทุกช่องทางการสื่อสาร ห้ามมิให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 กระทำการใดๆ ที่จะเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่การดำเนินคดีในศาล และเพื่อป้องกันไม่ให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 หลบหนี จึงให้ติดอุปกรณ์กำไลอิเล็กทรอนิกส์ (EM) ติดตามตัว และนำหนังสือเดินทางประเทศที่ยังไม่หมดอายุมาวางศาล
หากผิดเงื่อนไขศาลจะพิจารณาเพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว และห้ามจำเลยที่ 2 และที่ 3 เดินทางออกนอกประเทศ โดยให้แจ้งคำสั่งกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบโดยเร็ว
ล่าสุดนายรัฐวิชญ์ อริยพัชญ์พล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงหลักการเกี่ยวกับการพิจารณาสั่งประกันว่า โดยหลักแล้วสิทธิในการได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ
โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 29 วรคสอง รับรองสิทธิในการได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาไว้ว่า "ในคดีอาญา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดจะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้" ซึ่งหลักการนี้ก็ปรากฏอยู่ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาคดีอาญา มาตรา 107 ที่บัญญัติรับรองไว้อย่างชัดแจ้งว่า ผู้ต้องหาหรือจำเลยทุกคนพึงได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เว้นแต่กรณีใดที่มีข้อเท็จจริงเฉพาะเรื่องที่อาจกระทบต่อความปลอดภัยของสังคมหรือความต่อเนื่องของการดำเนินคดี กฎหมายจึงจะเปิดช่องให้มีการคุมขังระหว่างพิจารณาไว้อย่างจำกัด
นอกจากนี้ การสั่งปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาของศาลยุติธรรมในปัจจุบันยังให้ความสำคัญกับการนำมาตรการทางเลือกมาใช้แทนการนำเงินสดหรือหลักประกันมาวาวางศาล เช่น มาตรการตั้งผู้กำกับดแลหรือการนำกำไลอิเล็กทรอนิกส์ติติดตามตัว "EM" (Electronic Monitoring) มาใช้ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ประชาชน และลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นระหว่างผู้ต้องหาหรือจำเลยที่มีฐานะทางเศรษฐกิจแตกต่างกัน ให้สามารถเข้าถึงสิทธิ์ในการได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาอย่างเท่าเทียมกัน อันเป็นมาตรการตามนโยบายของประธานศาลฎีกาที่มุ่งสร้างสมดุลและอำนวยความยุติธรรมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนและความมั่นคงปลอดภัยของสังคมไปพร้อมพร้อมกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยทั้ง 2 คน ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง ในช่วงคำวันนี้