เปิดประวัติ "จอนนี่ มือปราบ" อินฟลูฯ ตำรวจคนดัง นับถอยหลังอีก 1 ปี ถึงเวลาถอดเครื่องแบบลาออกจากราชการตำรวจ
ทำเอาเอฟซีใจหายไปตาม ๆ กัน เมื่อ "จอนนี่ มือปราบอินดี้" หรือ ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์ อินฟูเอนเซอร์สายตำรวจผู้โด่งดัง ประกาศวางปืน ปลดเครื่องแบบสีกากีที่ตัวเองรัก ลาออกจากอาชีพราชการตำรวจในปีหน้าที่จะถึงนี้
เจ้าตัวโพสต์ตัดพ้อในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า
"ผมตัดสินใจทุกอย่างดีแล้ว 1 กุมภา ปี 2569 ผมขอลาออกจากอาชีพตำรวจ ด้วยเหตุผลในใจที่มีมากมาย อุดมการณ์ของผมมันขัดกับระบบ ผมจำเป็นต้องยุติลง จะทิ้งชื่อเสียงไว้ว่าครั้งหนึ่งเคยเป็นอดีตตำรวจที่มีผลงาน รวมทั้งประชาชนรักและศรัทธา"
สำหรับประวัติของ "จอนนี่มือปราบอินดี้" ปัจจุบัน อายุ 44 ปี เป็นชาวจังหวัดอุบลราชธานี วัยเด็กฝันอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ จึงวิ่งไล่เตะลูกหนังตามความฝันจนติดทีมเยาวชนจังหวัด ก่อนเข้ากรุงมาเป็นเด็กวัด เล่นฟุตบอลไปด้วยพร้อมเรียนหนังสือไปด้วย จนฝีเท้าเข้าตาแมวมองได้เป็นนักเตะเยาวชนสโมสรองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย
แต่แล้วจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตก็มาถึง เมื่อสอบได้เป็นนักเรียนพลตำรวจ รับราชการครั้งแรกที่สน.คันนายาวเมื่อปี 2543 ทำงานเป็นนักสืบอยู่ในพื้นที่ บก.น.2 กว่า 13 ปี พิชิตคดีสำคัญหลายคดี จนกระทั่งผู้ใหญ่เห็นฝีไม้ลายมือก็ชวนมาอยู่ที่กองปราบปราม
ที่กองปราบเขาเริ่มสร้างชื่อ อยู่เบื้องหลัง คดีมากมายให้นายแถลงข่าว งานแฝงตัวหาข่าวเป็นงานถนัดของเขาทั้งปลอมตัวเป็นคนขับวินมอไซต์ ขับแท็กซี่ ขายไส้กรอกคนงานก่อสร้าง เสี่ยสวนยาง บางคดียอมติดคุกเพื่อไปหาข่าวในเรือนจำ ส่งคนร้ายเข้าคุกจำนวนมาก จนได้รับรางวัลตำรวจสืบสวนดีเด่นอีกด้วย
คดีที่สร้างชื่อเสียงให้เขาคดีแรกคือคดีจับสาวประเภทสองมอมยา ลักทรัพย์และหลอกลวงหนุ่มญี่ปุ่นนับร้อยคน สูญเงินรวมกว่าร้อยล้านบาท คดีนี้เขาปลอมตัวเป็นสาวประเภทสองแฝงตัวหาข่าวจนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายที่ทำเอาชายญี่ปุ่นผวากันทั้งประเทศ
วันแถลงข่าว เขามาในมาดผมยาวแต่งตัวคล้ายสาวประเภทสองเดินควบคุมตัวผู้ต้องหาผ่านกล้องทีวีหลายสำนัก จนสื่อพากันงงว่าไหนตำรวจไหนผู้ต้องหา ด้วยบุคลิกแตกต่างจากตำรวจทั่วไป เขาจึงกลายเป็นที่สนใจของสื่อและชาวบ้าน จากนั้นก็ถูกเชิญไปออกรายการทีวีจนมีชื่อเสียงโด่งดังชั่วข้ามคืน
ต่อมา จอนนี่ มือปราบ ได้เปิดเพจจอนนี่ตะลึงกรุง และช่องยูทิวบ์ เผยแพร่คดีที่ตัวเองจับกุม และไลฟ์สไตล์บ้าน ๆ ติดดิน จนมีผู้ชื่นชอบติดตามนับล้านคน
หลังย้ายไปสังกัดกองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานีเขาได้มุ่งทำธุรกิจเสริมทั้ง ค่ายดนตรีฟาร์มไก่ชน คาเฟ่ ร้านอาหาร และรีสอร์ท
ดูเหมือนว่าชีวิตจะลงตัวทั้งอาชีพตำรวจและธุรกิจนอกเวลาราชการ แต่แล้วเมื่อปี 2566 จอนนี่ ได้โพสต์ขอลาออกจากราชการ เมื่อเรื่องเข้าหู พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ยศและตำแหน่งขณะนั้น) จึงได้แต่งตั้งเขาให้เป็น อินฟลูเอนเซอร์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งขอร้องไม่ให้ลาออกและรับปากจะคอยหนุนหลังช่วยเหลือให้เอง
ปีถัดมา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.ขณะนั้นซึ่งเป็นเจ้านายเก่าสมัยอยู่คอมมานโดกองปราบปรามด้วยกัน มีคำสั่งให้จอนนี่ เป็นคณะทำงานโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกด้วย
แต่แล้วเจ้าตัวก็ได้ขอลาออกเป็นครั้งที่สอง โดยโพสต์ว่า "ผมตัดสินใจด้วยสติ ใช้เวลาไตร่ตรองมาเกือบสิบปี ตั้งแต่ตัวเองโด่งดังมา เมื่อเวลามาถึง อีกหนึ่งเกมของชีวิตของผม หัวโขนที่ผมสวมใส่ เกมของชีวิตอีกหนึ่งบท มันถึงเวลาต้องยุติลง ด้วยเหตุผลในใจที่มีอยู่มากมาย
"ขอบคุณกำลังใจอย่างล้นหลาม ผมยังเหลือเวลาอีก 1 ปี ความเป็นตำรวจของผมจะสิ้นสุดลง"