ตำรวจกองปราบตามรวบสองผัวเมียแสบ ตีสนิทเศรษฐีนียะลาช่วยประสานทนายฟ้องร้องผัวเก่าคดีสิทธิเลี้ยงดูบุตร เหยื่อหลงเชื่อสูญเงิน 21 ล้านบาท
วันนี้ (28 ม.ค. ) พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ รรท. ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.อนุสรณ์ ทองไสย รอง ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ บุญทอง สว.กก.6 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายอัมรินทร์ อายุ 46 ปี และ น.ส.กรรณ์พธิตชา อายุ 36 ปี สองสามีภรรยาตามหมายจับศาลจังหวัดเบตง ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” ได้ที่บ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
ทั้งนี้เมื่อปี 62 สองสามีภรรยาคู่นี้ ได้ทราบข่าวว่าเศรษฐีนีที่เคยรู้จักรายหนึ่งในพื้นที่ จ.ยะลา กำลังมีเรื่องฟ้องร้องกับอดีตสามี เกี่ยวกับสิทธิเลี้ยงดูบุตร จึงพยายามเข้าไปตีสนิทให้คำปรึกษาข้อกฎหมาย อาสาติดต่อจัดหาทนายความสู้คดี รวมถึงคอยประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเดินเรื่องทางคดีให้ได้ ก่อนออกอุบายอ้างว่าตอนนี้ผู้เสียหายมีหมายจับติดตัว หากเดินทางออกจากพื้นที่ จ.ยะลา จะถูกจับกุม ทำให้ผู้เสียหายไม่กล้าเดินทาง ยอมให้สองสามีภรรยาคู่นี้คอยเป็นธุระจัดการเรื่องทางคดีให้ จากนั้นทั้งคู่ก็ได้ทำการปลอมแปลงเอกสารค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ใช้ในการต่อสู้คดี รวมถึงเอกสารการวางเงินประกันในชั้นศาล แล้วนำมาหลอกเบิกเงินค่าดำเนินการจากผู้เสียหาย เรื่อยมาจนถึงปี 66 รวมเป็นเงินกว่า 21 ล้านบาท
ต่อมาผู้เสียหายจะเริ่มเอะใจ เนื่องจากคดีความยืดเยื้อไม่สิ้นสุดเสียที จึงนำเอกสารต่าง ๆ ไปตรวจสอบกับทางศาล ก่อนพบว่าเป็นเอกสารปลอมที่ถูกทำขึ้นเพื่อใช้หลอกลวงเงิน จึงนำเรื่องเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เบตง รวมถึงประสานขอความช่วยเหลือกับทางตำรวจกองปราบ จนมีการร่วมกันสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่านอกจากผู้เสียหายรายนี้ยังมีเหยื่อรายอื่นถูกผู้ต้องหาทั้งสองรายหลอกเงินในลักษณะเดียวกันอีกหลายคนถือเป็นภัยต่อสังคม จึงเร่งจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส กระทั่งทราบว่า ปัจจุบัน ผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ได้หนีมากบดานอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จึงนำกำลังตามจับกุมได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน น.ส.กรรณ์พธิตชา ให้การภาคเสธ โดยรับว่าได้เอาเงินจากผู้เสียหายมาจริง แต่เป็นการยืมเงินมาเพื่อการลงทุน ขณะที่ นายอัมรินทร์ ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวส่ง สภ.เบตง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป