xs
xsm
sm
md
lg

โจ๋หัวร้อนขับรถ จยย.ปาดหน้าหนุ่มไรเดอร์ ก่อนตามพวกมารุม ใช้ไม้เบสบอลรุมตีหัวแตก จมูกหัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



อุกอาจ โจ๋หัวร้อนขับรถปาดหน้า คว้าไม้เบสบอล รุมตีไรเดอร์จมูกหัก-หัวแตก หนุ่มไรเดอร์ยังผวา ร้อง ดร.แก้ว ช่วย เชื่อ คนร้ายยังอยู่ในพื้นที่

เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 68 ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ “ดร.แก้ว” ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาอัยการ จังหวัดนนทบุรี และผู้ก่อตั้งเพจ “ดร.แก้วช่วยได้” ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นายภานุวัฒน์ สุมูลเวช อายุ 38 ปี หนุ่มไรเดอร์ส่งอาหาร ได้ถูก 2 คนร้ายขี่ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ สีดำแดง ทะเบียน 3 ขฬ 6561 กทม. ก่อเหตุรุมทำร้ายร่างกาย โดยใช้ไม้เบสบอลกระหน่ำตีศีรษะได้รับบาดเจ็บสาหัสจมูกหัก ศีรษะแตก ที่เกิดเหตุบริเวณกลางถนนรัตนาธิเบศร์ ใกล้เคียงปากซอยรัตนาธิเบศร์ 9 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี

ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดตัวที่ 1 (เป็นภาพนิ่ง) จับภาพวันที่ 25 ม.ค. 68 เวลา 09.22 น. จับภาพผู้ก่อเหตุสวมเสื้อสีแดงใส่กางเกงสีครีม ขี่รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ขับผ่านบริเวณปากซอยเรวดี 14

ภาพจากกล้องวงจรปิดตัวที่ 2 บันทึกภาพเหตุการณ์เวลา 09.45 น. บริเวณปากซอยเรวดี 22 พบผู้ก่อเหตุ 2 ราย ขับขี่รถจยย.ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ สีแดง ไล่ตามตามหลังรถผู้เสียหาย (สวมเสื้อโรบินฮูดสีเหลือง) เพื่อจะหวังทำร้ายร่างกาย

ต่อมาภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุมบริเวณหน้าปากซอยรัตนาธิเบศร์ 9 บันทึกภาพเวลาประมาณ 10.00 น. ได้มีชายผู้ก่อเหตุที่เป็นคนซ้อนรถ จยย. สวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีขาว ใส่เสื้อฮูดสีน้ำเงิน ในมือถือไม้เบสบอล 1 ด้าม ได้วิ่งไล่ตีผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายกระโดดลงจากรถ จยย.และวิ่งหนีตายไปเกาะกลางถนนรัตนาธิเบศร์ โดยมีผู้ก่อเหตุวิ่งตาม พร้อมถือไม้เบสบอลไล่ตี จนกระทั่งผู้เสียหายเสียหลักล้มลงไปนอนกองกับพื้นกลางถนน หน้ารถกระบะที่ขับมาปกติ จากนั้น เพื่อนของผู้ก่อเหตุได้ขี่ จยย.ตามมาแล้วเข้าไปรัวหมัดรุมทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย จนเกือบสลบคาถนน ก่อนจะมีพลเมืองดีรีบเข้าช่วยเหลือ จากนั้นผู้ก่อเหตุทั้งสองคน จึงรีบเดินออกมาพร้อมกับหยิบไม้เบสบอลขึ้นรถขี่รถ จยย. ย้อนศรหนีออกไป

นายภานุวัฒน์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนขับรถ จยย.ทำงานเป็นไรเดอร์ส่งอาหารอยู่ในซอยเรวดี 14 ระหว่างทางได้ถูกวัยรุ่นเป็นชาย 1 ราย ขับรถ จยย.ปาดหน้า ตนเลยตะโกนบอกว่า “หนุ่มขับรถแบบนี้ไม่ได้นะ” ทางคู่กรณีบอกกลับมาว่า “ผมขอโทษพี่แล้วไง” แล้วลงมาจากรถทำท่าทางเกรี้ยวกราด จะเข้ามาทำร้ายตน จังหวะนั้นเพื่อนของตนขับรถ จยย.ผ่านมาพอดี จึงได้แยกย้ายกันผ่านไป ต่อมาผ่านไปประมาณ 30 นาที วัยรุ่นคนดังกล่าวขับรถ จยย.มาดักรอบริเวณซอยเรวดี 22 โดยคนร้ายใส่ไอ้โม่งมา เปลี่ยนรถ จยย.คันใหม่ จากสีน้ำเงินเป็นสีแดง แล้วซ้อนท้าย จยย.พวกของเขามา จากนั้นทางผู้ก่อเหตุก็ได้ขับรถไล่ตนมา จนกระทั่งถึงบริเวณปากซอยรัตนาธิเบศร์ 9 ด้านผู้ก่อเหตุ คนที่ซ้อนท้ายที่เจอกันมาตั้งแต่แรก วิ่งถือไม้เบสบอลไล่ตี ทำให้ตนวิ่งหนีตายออกหน้าถนนเกือบโดนรถชน แต่เขาไม่ยอมหยุด วิ่งไล่ตามมาตี ตนเลยต้องสู้ แต่สู้ไม่ไหวโดนรุม 2 ต่อ 1

พอตนล้มลงเพื่อนที่มาด้วยมากันกับวัยรุ่นคู่กรณี เดินมาปลดหมวกกันน็อกตนออกแล้ว ให้คู่กรณีเอาไม้เบสบอลตีที่ศีรษะตนแล้วชกต่อยที่ใบหน้าตนหลายครั้ง เกือบโดนรถกระบะที่ชาวบ้านขับผ่านมาชน ดีที่เขาเบรกทัน ตอนนี้มีบาดแผลดั้งจมูกหัก หูฉีก หัวแตก ตาเขียว ยืนยันว่า ตนไม่รู้จักคู่กรณีมาก่อน และไม่เคยมีเรื่องกับใคร ตนทำมาหากินสุจริต ขับรถส่งของอยู่ภายในซอยนี้ทุกวัน ทำอาชีพไรเดอร์ ไม่อยากสู้รบปรบมือกับใคร ตนคิดว่า คู่กรณีน่าจะอยู่ซอยเรวดี น่าจะรู้จักกับวัยรุ่นแถวนี้ วันนี้ตนรู้สึกเครียดผ่านมา 4 วันแล้ว ยังจับคนร้ายไม่ได้ เห็นหน้าชัดมาก อยากให้ตำรวจจับตัวผู้ก่อเหตุได้ ตนทำงานในที่เปิด ไม่รู้ว่าจะโดนดักทำร้ายวันไหน กลัวจะไม่ปลอดภัย อยากให้ ดร.แก้ว ช่วยประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ไวๆ

ด้าน ดร.ปรเมศร์ หรือ ดร.แก้ว กล่าวว่า วันนี้ตนได้รับเรื่องร้องเรียนมาจากผู้เสียหายแล้ว ได้ดูคลิปพยานหลักฐานกล้องวงจรปิดในเบื้องต้น พบว่า การกระทำของผู้ก่อเหตุโหดร้ายมาก รุมทำร้ายร่างกาย จนทำให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกหัก แล้วหัวแตก รวมถึงรอยฟกช้ำตามใบหน้า หลังจากได้รับการร้องเรียน ตนได้โทร.ประสานทางพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อติดตามคดี

เบื้องต้นวันนี้ เวลา 23.00 น. ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกผู้เสียหายไปสอบปากคำ ในวันพรุ่งนี้ ตนจะพาผู้เสียหายเข้าพบผู้ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อให้เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ตอนนี้ด้านผู้เสียหายกลัวเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากได้ขับรถทำงานอยู่ในซอยเรวดีที่พบเจอคนร้าย เกรงจะถูกทำร้ายต่อหากยังจับกุมตัวผู้ต้องหาไม่ได้ เรื่องนี้ตนมองว่าการกระทำแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับใคร ไม่มีความเกรงกลัวกฎหมาย ก่อเหตุกลางถนนกลางวันแสกๆ โดยพฤติกรรมของ 2 คนร้ายรายนี้ ได้พุ่งเป้าใช้ไม้เบสบอลตีแต่หัวผู้เสียหาย ตนมองว่า อาจเข้าข่าย “พยายามฆ่า“ เรื่องนี้เชื่อว่าตำรวจใช้เวลาไม่เกิน 1 อาทิตย์ จะสามารถจับตัวคนร้ายได้ เพราะทะเบียนรถผู้ต้องหาชัดเจน








กำลังโหลดความคิดเห็น