สาวเพชรบูรณ์คลอดลูกแฝด ก่อนกำหนด เกิดอาการเครียดดิ่งชั้น 18 โรงพยาบาลดังปทุมธานี เพื่อนบ้านเผยคนตายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว สามีติดคุก ยังมีลูกแฝดอีก 2 เป็นห่วงลูกแฝดที่คลอดใหม่
วันนี้ (27 ม.ค.) ร.ต.ท.ปิยะวิทย์ ชีลั่น ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลปทุมธานี ว่า มีผู้หญิงตกตึกและเสียชีวิต ภายหลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับแพทย์เวร จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สายตรวจ ตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่และแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ หลังจากพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิงชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่เสียชีวิตอยู่บริเวณชั้นที่ 2 หรือชั้นลอยของโรงพยาบาลปทุมธานี จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า บริเวณอาคารดังกล่าวสูง 18 ชั้น และมีกรงเหล็กปิดล้อมรอบตัวอาคาร และพบบานประตู เปิดออกจากบริเวณชั้นที่ 18 และมองลงมาด้านล่าง พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นางสาวสายสุนีย์ จันต๊ะ อายุ 31 ปี ที่อยู่ 16 หมู่ที่ 15 ต.ยางสาว อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่า ผู้เสียชีวิตมาเฝ้าไข้ภายในโรงพยาบาลดังกล่าว ส่วนสาเหตุนั้นต้องรอทางเจ้าหน้าที่สอบถามทางญาติญาติอีกครั้ง
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล กล่าวเพียงว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตชื่อ น.ส.สายสุนีย์ มาทำการคลอดลูกเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 68 และได้ทำการคลอดลูกแฝดหญิง โดยการผ่าคลอดก่อนกำหนดเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 68 โดยท่าทางคนไข้เหมือนจะมีอาการเครียด เพราะหลังคลอดได้มีเพื่อนบ้านที่มาเยี่ยมเล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่า คนไข้เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว โดยมีลูกที่ต้องดูแล 2 คน และมาท้องคลอดลูกแฝดอีก 2 คน
โดยก่อนเสียชีวิตได้โทร.ไปคุยกับเพื่อนบ้านว่าเครียด ไม่มีคนดูแลและห่วงลูกแฝดหญิง ที่คลอดก่อนกำหนด สามีก็ติดคุกอยู่ในเรือนจำ จากนั้นคนไข้ก็ได้มาบอกและอ้างกับเจ้าหน้าที่พยาบาล ว่า จะขอไปซื้อของให้ลูกก่อนจะขึ้นลิฟต์ไปชั้น 18 แล้วเปิดกรงเหล็กแล้วกระโดดลงมาร่างกระแทกลงสู่ระเบียงชั้น 2 เสียงดังสนั่น จากนั้นทางแพทย์พยาบาลพยายามจะมาช่วยเหลือก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงได้ให้ทางกู้ชีพนำร่างเข้ามาในตัวอาคาร เพราะเห็นว่าเป็นภาพที่อุจาดตากับคนป่วยและญาติที่อยู่ในโรงพยาบาล
ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ พร้อมร่วมชันสูตรพลิกศพ พร้อมกับแพทย์เวร จึงได้บันทึกภาพในจุดเกิดเหตุเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจะได้ทำการสอบสวนเพิ่มเติม ทางญาติๆ และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ถึงสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ ส่วนผู้เสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ได้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้กับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นำร่างผู้เสียชีวิตส่งผ่านชันสูตรยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ถนนสายซ่อมสร้าง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี เพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้ง และจะได้ประสานทางญาติๆ มารับศพนำกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป