จากกรณีในพื้นที่โครงการหมู่บ้านเอื้ออาทร คลอง 10/3 หมู่ที่ 6 ตำบลบึงบา อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหนองเสือ ร่วมกับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.หนองเสือ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอหนองเสือ บุกบุกทลายเหมืองบิทคอยน์ และยึดเครื่องชุดบิทคอยน์ พร้อมของกลางจำนวน 5 เครื่อง และมิตเตอร์ไฟฟ้า ทำให้รัฐขาดรายได้เกือบล้าน เปิดปฏิบัติการ “Electrical Shock” เข้าตรวจค้นบ้านพัก2ชั้น ภายในโครงการหมู่บ้านเอื้ออาทร คลอง 10/3 ที่บ้านเลขที่ 106/78 หมู่ที่ 6 ตำบลบึงบาฯ ต้องสงสัยมีการลักใช้กระแสไฟฟ้า เพื่อใช้เป็นจุดทาเหมืองขุดเงิน ดิจิทัล ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี โดยมีการลักลอบตั้งเหมืองขุดเงินดิจิทัล (โดยเฉพาะบิตคอยน์ )โดยผิดกฎหมาย และมีการลักลอบใช้กระแสไฟฟ้าลักทรัพย์กระแสไฟฟ้า ดัดแปลงหม้อแปลง ต่อการกระแสไฟตรงโดยไม่ผ่านมิเตอร์ ทำให้รัฐได้รับความเสียหาย
เมื่อเวลา 14:30 น.วันที่ 23 มกราคม 2568 จากการเปิดเผยของ นายไพศาล เฟื่องวาณิชย์ ผู้จัดการการไฟฟ้าสาขาหนองเสือ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานีว่า วันนี้ทางการไฟฟ้าได้ร่วมกับพ.ต.ท.เผด็จ กระแตวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.หนองเสือ ,พ.ต.ท.อภิรัฐ ขานไข สว.สส.สภ.หนองเสือ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน, นายยุทธนา ศรีสมบัติ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอหนองเสือ ได้บูรณาการ จับผู้ลักลอบใช้ไฟฟ้า ขณะเจ้าหน้าที่ไปถึง ไม่พบผู้พักอาศัย ทราบว่าเป็นเพียงบ้านเช่าทั้งไว้ บางวันจะมีคนมาบ้างแต่นานจะมาครั้ง ทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า จึงต้องใช้รถกระเช้า ขึ้นไปดูบนบ้านหลังดังกล่าว และพบว่ามีอุปกรณ์หลายอย่าง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เชิญ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องและประชาชน เข้าร่วมตรวจค้นในครั้งนี้ (ก่อนที่จะมีสายปลายทางโทรมาหา ทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า โดยขอเคลือค่าไฟ)
นายไพศาล เฟื่องวาณิชย์ ผู้จัดการการไฟฟ้าสาขาหนองเสือ กล่าวว่า การลักลอบตั้งเหมืองขุดเงินดิจิทัล (โดยเฉพาะบิตคอยน์ )โดยผิดกฎหมาย และมีการลักลอบใช้กระแสไฟฟ้า ต่อการกระแสไฟตรงโดยไม่ผ่านมิเตอร์ ทาให้รัฐได้รับความเสียหาย นอกจากจะมีความผิดตามกฎหมายแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ไฟฟ้า เนื่องจากการปรับแต่งระบบไฟฟ้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร อัคคีภัย และไฟดูดไฟช็อต ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงระบบไฟฟ้าในพื้นที่ ส่งผลเสียหายต่อทั้งชีวิต และทรัพย์สินผู้ใช้ไฟฟ้า ซึ่งในกรณีที่ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ใช่ผู้ปรับแต่งระบบไฟฟ้าด้วยตนเอง แต่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าในสถานที่ที่มีการลักลอบ ก็จะมีความผิดในข้อหาลักทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญาด้วยเช่นกัน
สำหรับมูลค่าความเสียหายที่ลักลอบใช้ไฟไปเกือบ 12 เดือน คือเดือนละประมาณ 60,000บาท และค่าปรับอีกประมาณ 200,000 บาท ร่วมเป็นเงิน 900,000บาท เป็นการประเมินในเบื้องต้น
นายไพศาล เฟื่องวาณิชย์ ผู้จัดการการไฟฟ้าสาขาหนองเสือ ยังกล่าวอีกว่า อยากฝากเตือนประชาชน ถ้าพบเห็นการใช้ไฟผิดปกติ ให้แจ้งการไฟฟ้าได้ทันที หรือโทร 1129 ซึ่งความผิดคือเป็นการละเมิดลักไฟหลวงไปใช้ทำให้เกิดความเสียหาย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดของทั้งหมด พร้อมตรวจสอบเอกสารการเช่าว่าผู้เช่าเป็นใคร ตรวจสอบการเงิน เพื่อดำเนินการเร่งรัดติดตามตัวผู้กระทำความผิดในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
