ศาลอาญายกฟ้อง"ออยศรี" กับพวก หมิ่น“ทนายตั้ม” วิจารณ์แอบอ้างเป็นดีเอสไอถ่ายคลิป "ครูปรีชา" ชี้วิพากษ์วิจารณ์ ติชมด้วยความเป็นธรรม
วันนี้ (22 ม.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.1938/2566 มีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.บุณยนุช แสงศรี แอดมินเพจ ‘ออยศรีและผองเผือก’กับพวกรวม 3 คน ข้อหาหมิ่นประมาทโดยกาโฆษณา,ละเมิด,ดูหมิ่นโดยการโฆษณา
ภายหลังฟังคำพิพากษา น.ส.บุญยนุช หรือ ออยศรี เปิเผยว่า ตนเดินทางมาศาลในวันนี้สืบเนื่องมาจากคดีที่นายษิทธา หรือ "ทนายตั้ม" ปลอมตัวเป็นดีเอสไอเข้าไป ถ่ายคลิปนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชาคดีหวย 30 ล้าน และตนได้ลงโพสต์เกี่ยวกับข่าวดังกล่าว เช่นเดียวกับสื่อมวลชนรายอื่นๆ แต่"ทนายตั้ม"เลือกที่จะฟ้องตนเองกับพวก
ซึ่งศาลเห็นว่า "ทนายตั้ม" เป็นเลขามูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เป็นบุคคลสาธารณะ การที่มีพฤติการณ์ อัดคลิปครูปรีชา ในสถานที่ราชการที่ครูปรีชา ปฏิบัติราชการอยู่ มีคลิปเป็นความจริงและปรากฏในเฟซบุ๊กของ"ทนายตั้ม" จะพบว่าพฤติการณ์ที่สื่อมวลชนและจำเลยได้วิพากษ์วิจารณ์ เป็นการใช้สิทธิ์เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ วิจารณ์ตามจริงไม่เกินไปกว่าการติชมแสดงความเห็นโดยสุจริตในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ทำได้ ศาลจึงมีคำสั่งยกฟ้อง
น.ส.บุญยนุช หรือออยศรี กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีคดีอื่นๆ ที่"ทนายตั้ม"เป็นทั้งโจทก์และจำเลย ซึ่งเป็นคดีความฟ้องร้องกันก่อน ที่ทนายตั้มจะเข้าเรือนจำ เช่น ประเด็นทนายตั้มกล่าวหาว่าพวกเรา ไปวิพากษ์วิจารณ์ลูกของ"ทนายตั้ม" ทำให้ไม่สามารถไปเรียนต่างประเทศได้ซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เป็นการหมิ่นประมาทพวกตนเช่นกัน และตนเตรียมตัวจะฟ้องกลับในวันพรุ่งนี้ซึ่งครบอายุความพอดี
เมื่อถามถึงการฟ้องกลับในคดีที่ถูกยกฟ้องนั้น น.ส.บุญยนุช กล่าวว่า จะมีการดำเนินคดีแน่นอน แต่ต้องรอให้ทีมทนายความได้วิเคราะห์คำพิพากษาก่อน