ผบช.ปส.แถลงผลการแสกนพื้นที่ชั้นในกรุงเทพฯ จับแก๊งนักค้ายาผิวสี และตัดตอนสกัดกั้นลำเลียงยาเสพติดลงใต้
วันนี้ (20 ม.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า รรท.รอง ผบช.ปส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว การสแกนพื้นที่ชั้นใน จับแก๊งนักค้ายาผิวสี ตัดตอนสกัดกั้นการลำเลียงยาลงใต้
โดยคดีแรกเป็นการสแกนพื้นที่ชั้นในกรุงเทพมหานคร โดย กก.2 บก.ปส.1 ทำการสืบสวนหาข่าวและเฝ้าสังเกตพฤติการณ์กลุ่มนักค้ายาผิวสี ที่ลักลอบจำหน่ายโคเคนให้กับนักท่องเที่ยวย่านซอยนานา ถนนสุขุมวิท สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ โดยมีการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนสามารถออกหมายจับกลุ่มผู้ค้า จำนวน 12 ราย และติดตามจับกุมได้ 11 ราย เป็นชายผิวสี 11 ราย หญิงไทย 2 ราย ของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) จำนวน 61 กรัม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 11 ราย ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
คดีต่อมาเป็นการตัดตอน สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงใต้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ได้ทำการสืบสวนกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ จนทราบว่า จะมีกลุ่มผู้ค้าลักลอบลำเลียงยาเสพติดพื้นที่ภาคเหนือ จากจังหวัดเชียงรายมาทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อนำส่งกลุ่มผู้ค้าในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช กระทั่งเวลา 21.00 น. วันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา นปส.เชียงราย กก.2 บก.ปส.3 ทราบว่า มีการนัดหมายส่งมอบยาเสพติด ที่บริเวณซอยทางเข้าบ้านพักเฮือนฮิมบ่อ ตำบลดอยห่าง อำเภอเมืองเชียงราย จึงได้เข้าตรวจสอบ พบเป็นกล่องกระดาษและกระสอบสีรุ้ง บรรจุยาบ้าประมาณ 478,000 เม็ด และเคตามีน 30 ก้อน น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม จึงทำการตรวจยึดและสืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มเครือข่าย
ต่อมาวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ชุดสืบสวนพบรถยนต์ 3 คัน ซึ่งเป็นของกลุ่มผู้ค้า บริเวณปั๊มน้ำมันแยกสวนผัก อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้ทำการปิดล้อมตรวจค้น แต่ผู้ค้าได้เร่งเครื่องหลบหนี ขับพุ่งชนรถยนต์ของเจ้าที่ได้รับความเสียหาย ก่อนจะสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย คือนายธนกฤต อายุ 21 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมของกลางยาบ้า 478,000 เมตร เคตามีน 30 กิโลกรัม ตรวจยึดรถยนต์ 3 คัน พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนโดยทั่วไป มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาตนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
และคดีสุดท้าย ชุด นปส.นครพนม/อุดรธานี กก.3 บก.ปส.2 ได้ทำการสืบสวนกลุ่มลูกค้าในภาคอีสาน เป็นการตัดตอนไม่ให้สามารถนำยาเสพติด นำแพร่กระจายเข้าสู่พื้นที่ชั้นในกรุงเทพฯ โดยเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 68 ได้มีการจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 4,000,000 เม็ด รถยนต์ 2 คัน โดยจับกุมได้บริเวณริมถนนตลาดชุมชนสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร ต่อเนื่องกับปั๊มน้ำมันในตำบลปะโค อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับยาเสพติดมาจากลานจอดรถห้างแม็คโครนครพนม ให้นำไปส่งปลายทาง ถนนพระราม 2 จ.สมุทรสาคร ซึ่งได้ค่าจ้าง 200,000 บาท
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนขยายผลกลุ่มผู้ค้า จนทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนอีสาน มาพักและเตรียมขนส่งให้แก่เครือข่ายทางภาคใต้ ซึ่งเป็นบ้านหลังหนึ่งในตำบลลำพญา อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม และจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 3,000,000 เม็ด รถยนต์ที่ใช้ในการขนอีก 1 คัน
พล.ต.ท.สันติ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้มีผลการจับกุมและทลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ได้จำนวนมาก และการจับกุมในแต่ละครั้ง จะมีการขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้สมคบ สนับสนุน ผู้ค้า และบังคับใช้กฎหมายยาเสพติดในเรื่องของการดำเนินการในส่วนทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด เพื่อเป็นการทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดให้หมดไป หรือให้น้อยลงมากที่สุดต่อไป