MGR Online - ป.ป.ส. ร่วมภาคีจับกุม สาวไทย-ลูกจ้าง ร่วมขบวนการขนไอซ์ข้ามชาติ ปะปนในม้วนฝ้าย 1.65 ตัน เตรียมส่งประเทศที่สาม อีกคดียึดทรัพย์นักค้ายารายสำคัญ กว่า 20 ล.
วันนี้ (20 ม.ค.) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส. , พล.ร.ท.ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล รองเสนาธิการทหารเรือ กองทัพเรือ , นายจักกฤช อุเทนสุต รองอธิบดีกรมศุลกากร , พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผู้บังคับการปราบปรามยาเสพติด 3 บช.ปส. , พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร กองทัพบก และ น.อ.วิสูตร งิ้วแหลม รองผู้บังคับทหารอากาศดอนเมือง กองทัพอากาศ ร่วมแถลงผลการจับกุม 2 คดี ยึดทรัพย์สินนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ มูลค่า 20 ล้านบาท และปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายไอซ์ข้ามชาติ 1.65 ตัน
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า สืบเนื่องวันที่ 17 ม.ค.68 ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานภาคีทั้งทหารเรือ ทหารอากาศและ ศุลกากร ปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายไอซ์ข้ามชาติ จับกุมผู้ต้องหา 5 คน พร้อมไอซ์ น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 1.65 ตัน อยู่ในม้วนฝ้าย 33 ม้วน ซึ่งมีความสลับซับซ้อนตรวจจับยาก เหตุเกิดที่โกดัง ในพื้นที่แขวงบางประกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ โดยการสืบสวนขยายผลเมื่อเดือน ธ.ค.67 กองทัพเรือได้ประสานข้อมูลการข่าวเกี่ยวกับเครือข่ายลำเลียงไอซ์ข้ามชาติดังกล่าว มายัง ป.ป.ส. จึงสั่งชุดปฏิบัติการเฝ้าระวัง จนทราบว่าเครือข่ายดังกล่าวลักลอบนำเข้าสินค้าประเภทม้วนฝ้ายที่ซุกซ่อนไอซ์จากอินเดีย กว่า 100 ม้วน มีต้นทางจากทวีปแอฟริกา ซึ่งเครือข่ายนี้มีการประสานงานกันเชื่อมโยงกันหลายภูมิภาค ใช้ไทยเป็นประเทศทางผ่านเพื่อเตรียมลำเลียงต่อไปยังปลายทางประเทศที่สาม มีการจ้างนอมินี เช่าโกดังเก็บฝ้าย 140 ม้วน มีจำนวน 33 ม้วน ที่มีไอซ์ลักษณะเป็นเกร็ดปะปน รวมถึงชุบอยู่ในเนื้อฝ้าย เพื่อให้ดูด้วยตาเปล่าไม่ออกว่าเป็นไอซ์
ด้าน นายปฤณ เผยว่า ชุดปฏิบัติการจึงนำกำลังเข้าทำการตรวจค้นจับกุมชายทำหน้าที่เฝ้าโกดัง และเป็นนอมินีเปิดบริษัทนำเข้า - ส่งออก จำนวน 4 คน จากนั้นขยายผลการสอบสวนทราบว่า ผู้สั่งการเป็นหญิงไทยอายุประมาณ 30 ปี มีบทบาท เป็นผู้ว่าจ้างเปิดบริษัทอำพราง และเป็นผู้เช่าโกดังเก็บพักยาเสพติด รวมถึงประสานงานกับเครือข่ายในต่างประเทศ ตามจับกุมตัวได้ที่ศูนย์การประชุม ในพื้นที่เขตลองเตย กรุงเทพฯ จากนั้นนำตัวมาขยายผลสอบสวนที่โกดังที่พบยาเสพติดของกลาง และขยายผลตรวจค้นอีก 3 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมติดตามยึดอายัดทรัพย์ของขบวนการดังกล่าว
"จากหลักฐานโทรศัพท์มือถือหญิงสาวชาวไทย พบข้อความพูดคุยกับผู้สั่งการจากทวีปแอฟริกา โดยต้นทางได้ชุปไอซ์ปะปนกับม้วนฝ้ายมาตั้งแต่แรก ซึ่งจะไปยังประเทศอินเดียแต่เข้าไม่ได้ เลยประสานหญิงไทยหาโกดังเช่า ลักลอบเข้ามาในประเทศไทยแทน ก่อนจะส่งประเทศที่สาม ส่วนกรรมวิธีประเทศปลายทางจะสกัดไอซ์ออกมาเอง เช่น ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ หรือญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะขยายผลว่ามีการลักลอบนำเข้ามาแล้วกี่ครั้งและผู้เกี่ยวข้องต่อไป"
คดีที่ 2 เป็นการขยายผลจับกุมและยึดทรัพย์สินนักค้ายาเสพติดรายสำคัญตามประกาศสืบจับ ยึดทรัพย์ 20 ล้านบาท โดยจับกุม นายพงษ์ศักดิ์ รื่นเพชร ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ซึ่งเป็นนักค้ายาเสพติดระดับผู้สั่งการ มีบทบาทเป็น ผู้ประสานงานควบคุมการลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ขณะเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ใกล้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 เชียงของ-ห้วยทราย
จากนั้น ปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักอาศัย กิจการคาเฟ่ร้านอาหาร ที่ใช้เงินยาเสพติดมาลงทุน และให้ครอบครัวถือครองแทนเพื่อหลบเลี่ยง รวม 4 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี จ.อ่างทอง จ.ตาก ตรวจยึดทรัพย์สิน ทั้ง ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง กิจการคาเฟ่ ร้านอาหาร รถยนต์ ทองรูปพรรณ บัญชีธนาคาร และอื่นๆรวมมูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท
โดยนายพงษ์ศักดิ์ นักค้ายาฯ รายนี้มีพฤติการณ์เป็นผู้สั่งการประสานงาน ควบคุมลำเลียงยาเสพติดในหลายพื้นที่ เกี่ยวพันกับคดีเมื่อวันที่ 30 ต.ค.64 ที่สภ.เวียงหมอก จับกุมผู้ต้องหา พร้อมยาบ้า 600,000 เม็ด ไอซ์ 41 กิโลกรัม ที่ จ.ลำปาง ยาเสพติดดังกล่าวถูกลำเลียงจากพื้นที่ อเชียงดาว จ.เชียงใหม่ เพื่อเตรียมนำส่งปลายทาง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
