น้องสาวพร้อมครอบครัว ขอความช่วยเหลือเพจสายไหมต้องรอด หลังพี่ชายเสียชีวิตกลางทุ่งนา ส่งศพชันสูตร 2 แห่ง ผลไม่ตรงกัน แจ้งความผ่านมา 8 เดือน คดียังไม่คืบ
วันนี้ (18 ม.ค.) ครอบครัวของ นายชัชพิมุข แสนสุข อายุ 41 ปี ร้องขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลัง นายชัชพิมุข ซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัว เสียชีวิตปริศนา ที่บริเวณทุ่งนา ส่งชันสูตรศพ 2 ที่ ผลชันสูตรไม่ตรงกัน แจ้งความผ่านมา 8 เดือน คดีไม่คืบหน้า เนื่องจากคำให้การของผู้ต้องสงสัยให้การไม่เป็นประโยชน์
น.ส.นาถยา โสระสะ อายุ 34 ปี เป็นน้องสาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า การชันสูตรครั้งแรกระบุว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากโรคประจำตัวหรือการป่วย แต่ครอบครัวไม่เชื่อ เนื่องจากผู้ตายมีสุขภาพแข็งแรง และไม่มีโรคประจำตัวที่ครอบครัวรับรู้ จึงได้นำร่างไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งผลออกมาว่า ผู้ตายเสียชีวิตจากสมองได้รับการกระทบกระเทือนรุนแรง โดยยืนยันว่า ไม่ใช่อุบัติเหตุหรือการทำร้ายตัวเอง แต่เกิดจากการกระทำของบุคคลอื่น หลังทราบผล ครอบครัวได้นำหลักฐานทั้งหมดไปยื่นให้พนักงานสอบสวน แต่กว่า 8 เดือนที่ผ่านมา คดีกลับไม่มีความคืบหน้า ครอบครัวจึงตัดสินใจไม่เผาศพ และเก็บร่างผู้ตายไว้เพื่อรอความจริงปรากฏ
โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนวันที่ 14 พ.ค. 67 พี่ชายมาหาที่บ้าน และออกจากบ้านไปเวลาประมาณ 20.00 น. หลังจากนั้น พี่ชายไม่รับสายโทรศัพท์ จนกระทั่งเวลา 00.20 น. มีคนโทร.มาบอกว่าพี่ชายถูกพบในทุ่งนา และได้ถูกนำส่งโรงพยาบาล แต่เมื่อไปถึง พบว่าพี่ชายเสียชีวิตแล้ว จากการสอบถามทราบว่า นายบิ๊ก และนายเบิร์ด เป็นผู้พบศพในทุ่งนา โดยแม่ของนายบิ๊ก เล่าว่า ก่อนพบศพ มีเสียงปืนดัง 2-3 นัดในทุ่งนาหลังบ้าน เมื่อลงไปดูจึงพบผู้ตายนอนอยู่ โดยจุดเกิดเหตุมีไม้ท่อนหนึ่งและรองเท้าบูตตกอยู่ และไม้ท่อนนั้นเป็นไม้ของนายบิ๊กและบริเวณจุดพบศพ ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร มีร่องรอยรองเท้าบูตและรอยการต่อสู้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ครอบครัวสงสัย อีกทั้งกล้องวงจรปิดจับภาพช่วงเวลาขัดแย้ง
โดยมีเสียงปืนในเวลา 22.45 น. แต่ศพกลับถูกนำส่งโรงพยาบาลในเวลา 00.20 น.ครอบครัวยังเชื่อว่า ปัญหาอาจเกิดจากความขัดแย้งระหว่างหลานของนายบิ๊ก กับลูกของผู้ตาย ที่เคยมีปากเสียงกันมาก่อน และมีการท้าทายกันในคืนเกิดเหตุ ก่อนจะพบศพ
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า จะประสานงานกับตำรวจ สภ.บางไทร เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และเร่งรัดคดีให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้รับความยุติธรรม