พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง สั่งไม่ฟ้อง "เมียบิ๊กโจ๊ก" กรณีถูก "เจ๊หนิง" แจ้งจับคดีลักทรัพย์มูลค่า 5 ล้าน หลังพบพยานไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตามที่กล่าวอ้าง เจ้าตัวขอบคุณตำรวจให้ความเป็นธรรม
วันนี้ (18 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ น.ส.ธณัฏฐา หรือ เจ๊หนิง เข้าแจ้งความที่ สน.พระโขนง ขอให้ดำเนินคดีกับ นางศิรินัดดา หักพาล หรือ กุ๊บกิ๊บ ภรรยา "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.และพวก ร่วมกันบุกรุกในเคหสถาน และร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานเป็นทองคำและเงินสด รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2567 อ้างว่า นางศิรินัดดา ได้นำกระเป๋าสายรุ้งจำนวนหนึ่ง ไปฝากไว้ที่คอนโด ที่ห้องเกิดเหตุห้องหนึ่งในชั้น 7 คอนโดแห่งหนึ่ง ซอยสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. ซึ่งเป็นของ พ.ต.อ.ภีมพจน์ อาจารย์สอนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ สามีของ น.ส.ธณัฏฐา
และหลังจากนั้น นางศิรินัดดา ให้ลูกน้องไปขนของกลับ โดยอ้างว่าระหว่างที่มีการขนของกลับ ทรัพย์สินจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นเงินสดและพระเครื่อง รวมถึงสร้อยคอทองคำ ที่เก็บไว้ในห้องเดียวกันได้มูลค่ารวม 5 ล้านบาทหายไป จากนั้นวันที่ 23 และ 24 ตุลาคม 2567 พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง สอบสวนปากคำผู้เกี่ยวข้อง และออกหมายจับนางศิรินัดดา โดยเจ้าตัวเข้ามอบตัวกับตำรวจ สน.พระโขนง ทันทีหลังถูกออกหมายจับ
ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง รวบรวมพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคลและพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันได้ว่า ตามวันเวลาที่ น.ส.ธณัฏฐา กล่าวหานางศิรินัดดาเรื่องการลักทรัพย์นั้น นางศิรินัดดา ไม่ได้ไปปรากฏตัวตามวันและเวลา รวมถึงสถานที่เกิดเหตุตามที่ น.ส.ธณัฏฐา กล่าวอ้างแต่อย่างใด
และพนักงานสอบสวนยังมีพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันได้ว่า นายพงษ์พัฒน์ หลานเจ๊หนิง ซึ่งเป็นพยานที่อ้างว่าเห็นเหตุการณ์นั้น แท้จริงแล้วไม่ได้อยู่ที่เกิดเหตุตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด โดยเมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง จึงสั่งไม่ฟ้องนางศิรินัดดา
ด้านนางศิรินัดดา กล่าวขอบคุณตำรวจสน.พระโขนง ที่คืนความยุติธรรมให้ หลังจากมีคำสั่งไม่ฟ้อง ส่วนคดีที่ตนแจ้งความกลับ น.ส.ธณัฏฐา หรือ เจ๊หนิง สามีเจ๊หนิง และหลานชาย ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย