ตำรวจสืบนครบาลจับหนุ่มชาวโปแลนด์ ตีก้นสาวในร้านสะดวกซื้อ อ้างไม่ได้ตีแรง ทำแบบนี้บ่อย และไม่รู้ว่าผิด
วันนี้ (15 ก.ค.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อดุลย์ ดอกพวง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง รอง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น.สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กก.สส.4 บก.สส.บช.น. ร่วมกันสืบสวนจับกุมตัวนายปิโอเตอร์ (ขอสงวนนามสกุล) (MR.PIOTR) อายุ 31 ปี สัญชาติ โปแลนด์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 63/2568 ลงวันที่ 14 ม.ค.68 ข้อหากระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น เกิดต่อหน้าธารกำนัล จับกุมตัวได้ที่ บริเวณหน้าห้องพัก ชั้น 36 คอนโดแห่งหนึ่ง ริมถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ
โเยพฤติการณ์กล่าวคือ ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งย่านสาทร ผู้เสียหายเป็นผู้หญิงกำลังเลือกซื้อสินค้าภายในร้านสะดวกซื้ออยู่ ได้มีผู้ต้องหาเป็นชายชาวต่างชาติเดินมาตีก้นเธออย่างแรง ผู้เสียหายตกใจจึงหันมองว่า เป็นใคร เป็นเพื่อนที่รู้จักมาแกล้งเล่นหรือไม่ แต่เมื่อมองไปกลับเป็นชายชาวต่างชาติที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ขณะนั้นหันไปดูรอบๆ เห็นลูกค้าคนอื่นๆ และพนักงานร้านสะดวกซื้อยืนจ้องมาที่ผู้เสียหาย ทำให้รู้สึกถูกดูหมิ่นเหยียดหยามว่า เป็นผู้หญิงไร้ค่า จึงรีบเดินออกจากร้านสะดวกซื้อไปด้วยความอับอาย จากนั้นผู้เสียหายได้ปรึกษาคนรู้จักจนทราบว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิด จึงเดินทางไปยัง สน.ทุ่งมหาเมฆเพื่อเข้าแจ้งความ แต่ผู้เสียไม่ได้ต้องการสิ่งใดนอกจากคำว่า “ขอโทษ” จากผู้ต้องหา
ต่อมาพนักงานสอบสวนหญิง สน.ทุ่งมหาเมฆ จึงออกหมายเรียกผู้ต้องหาคนดังกล่าว และแจ้งผ่านเอเจ้นท์ที่ผู้ต้องหาเช่าห้องอยู่ เพื่อให้มาชี้แจงและไกล่เกลี่ยให้ผู้ต้องหามาขอโทษเธอ ตามที่เธอต้องการ แต่ผู้ต้องหาไม่มา กลับบอกผ่านเอเจ้นท์ว่า ตนเองไม่ได้ตีแรง และเคยทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้งตอนไปเที่ยวสถานบันเทิง ไม่เห็นจะมีใครว่าอะไร และคิดว่าตนเองไม่ได้กระทำความผิด การกระทำแค่นี้กฎหมายไม่สามารถเอาผิดอะไรได้ เดี๋ยวตนเองก็บินกลับต่างประเทศแล้ว ด้วยคำพูดของผู้ต้องหาที่ไม่ได้สำนึกกับการทำผิด คิดว่าจะทำแบบนี้กับใครก็ได้ ประกอบกับความอับอาย ผู้เสียหายจึงแจ้งความประสงค์จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลได้รับประสานให้ช่วยจับกุมตัวผู้ต้องหา จึงสืบสวนและเดินทางไปที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านสาทรที่ผู้ต้องหาพักอยู่ จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นผู้กองโชแปงได้แสดงหมายจับและแจ้งสิทธิผู้ต้องหาเป็นภาษาอังกฤษให้ทราบ จนผู้ต้องหาเข้าใจ จากนั้นจึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาไม่ขอให้การเกี่ยวกับคดี แต่ยอมรับว่า บุคคลตามภาพกล้องวงจรปิดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูเป็นตนเองที่เดินไปตีก้นผู้หญิงตามภาพจริง เคยตีก้นลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้งตามสถานบันเทิง แต่ครั้งนี้ที่ไม่ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหมายเรียกเพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย และไม่ผิดกฎหมาย
หลังจับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ประเทศไทย เป็นเมืองท่องเที่ยว ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลกทุกคนที่เข้ามาท่องเที่ยว แต่เมื่อเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้ว ต้องเคารพกฎระเบียบระเบียบบ้านเมือง จารีตประเพณี วัฒนธรรมไทย และกฎหมายของประเทศไทย เพื่อให้คนไทยและนักท่องเที่ยวอยู่รวมกันได้อย่างปลอดภัย การกระทำของผู้ต้องหาถือเป็น การกระทำอนาจารลักษณะหนึ่ง ที่กฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิด มีอัตราโทษสูงสุดถึง 10 ปี ซึ่งไม่ว่า ผู้กระทำ จะเป็นชาติใด หากกระทำผิดในประเทศไทย ก็จะต้องถูกลงโทษตามกฎหมายไทย ผู้ใดเคยตกเป็นเหยื่อของผู้ต้องหารายนี้ สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่เพจ สืบนครบาล IDMB เราจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด แม้ว่าจะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.