ตำรวจสืบนครบาลจับกุมนายอนุชิต ผู้ต้องหาฉ้อโกงหลอกขายสินค้าไอที พบเหยื่อกว่า 200 คน หนีคดีมา 7 ปี พบมีหมายจับติดตัวหลายคดี
วันนี้ (15 ม.ค.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น.สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น.จับบกุมตัวนายอนุชิต อายุ 32 ปี ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.521/2566 ลงวันที่ 19 พ.ค.66 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง
โดยพฤติการณ์เนื่องด้วยทางเจ้าหน้าที่สืบนครบาล ได้รับเรื่องร้องทุกข์ว่า มีบุคคลตกเป็นเหยื่อได้มีการรวมกลุ่มกว่า 200 คน ซึ่งได้รับความเดือดร้อน เสียหายกระจายในกลุ่มสั่งสินค้าออนไลน์ ซื้อ-ขาย มือถือ คอมพิวเตอร์ กล้องถ่ายภาพ เลนส์กล้อง เครื่องเล่นเกมส์ รวมถึงขายสินค้าทางไอที ต่างๆ มากมาย แต่ไม่ได้รับสินค้า จากมิจฉาชีพที่แฝงตัวขายสินค้าในกลุ่มภายหลังการโอนเงินสำเร็จ เหยื่อจำนวนมากไม่สามารถติดต่อมิจฉาชีพรายดังกล่าวได้ อีกทั้งชุดจับกุมเมื่อได้ทราบถึงความทุกข์ เดือดร้อน เป็นภัยทางสังคมออนไลน์ ทำให้เจ้าหน้าที่เร่งหาตัวผู้ต้องหา และตรวจสอบข้อมูลในระบบพบว่ามีหมายจับติดตัวจำนวนมาก และมีประวัติการถูกจับกุมเมื่อปี 2562 ยังเป็นบุคคลอันตราย ที่สังคมให้ความสนใจในกลุ่มผู้ซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์ ที่ตกเป็นเหยื่อระยะเวลายาวนานถึง 7 ปี แม้ว่าประชาชนลงประกาศแจ้งเตือนเป็นบุคคลอัยตราย ก่อภัยร้ายแรงต่อทรัพย์สินของประชาชนฯ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบแหล่งหลบซ่อนตัว และสถานที่พักอาศัยจึงติดตามอย่างใกล้ชิดตลอดใน7วัน เมื่อเห็นพฤติการณ์ และอัตลักษณ์ ที่ชัดเจน ในภาพถ่ายบนการโพสต์ประกาศขายสินค้ามือถือราคา 15,000 บาท จึงทำการวิเคราะห์ข้อมูล เฝ้าติดตามใน24ชั่วโมง จนมั่นใจในหลักฐานที่ปรากฎตามภาพถ่ายคู่สินค้าดังกล่าว ชุดจับกุม ออกเดินทางจากกรุงเทพฯเพื่อมุ่งหน้าถึงปลายทาง จ.ขอนแก่น เมื่อถึงเวลาตามกำหนดจึงเข้าพิสูจน์ทราบยังแหล่งที่หลบซ่อนตัว เมื่อบุคคลดังกล่าว มีอัตลักษณ์ ที่ตรงตามหน้าหมายจับกุม เจ้าหน้าที่จึงเข้าแสดงตัวพร้อมทั้ง อ่านหน้าหมายจับ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลหมายจับในระบบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังพบว่า นายอนุชิต ยังมีหมายจับอีกจำนวน 7 หมายจับ ซึ่งในชั้นการจับกุมผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพในทุกข้อกล่าวหา ให้การรับว่าตนคือบุคคลตามหน้าหมายจับจริง และค่อนข้างตกใจในการจับกุมครั้งนี้ เพราะตนหนีมา 7 ปี ไม่คิดว่า ตนจะมีหมายจำนวนมาก คิดว่า อำพรางตนในสถานที่นี้คงยากต่อการหาตัว เพราะยอมรับว่าใช้ชีวิตแทบไม่ออกไปไหน แต่ก็ยังถูกจับจนได้ยอมรับสืบผมเก่งมาก ไม่คิดว่าจะถูกจับกุม จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาเดินทางมาเพื่อทำการลงบันทึกจับกุมที่ สืบนครบาล กองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ และส่งตัวผู้ต้องหา ให้พนักงานสอบสวน สน.บางชัน เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าว่า บุคคลดังกล่าวถือว่าเป็นภัยสังคมในโลกออนไลน์ ก่อเหตุต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน สร้างความเสียหายและความเดือดร้อนให้ประชาชนเป็นจำนวนมาก และอยากขอฝากเตือนประชาชนในการซื้อของออนไลน์ ให้ตรวจสอบและเปรียบเทียบราคาสินค้าจากหลายๆ ร้าน เลือกซื้อของจาก Official store หรือแพลตฟอร์มที่ไว้ใจได้ อย่างเช่น Shoppee Lazada
ตรวจสอบบัญชีผู้โอน โดยนำเลขที่บัญชีหรือชื่อของผู้ขายไปค้นหาบน Google เพื่อที่จะหาประวัติว่าเคยมีคนโพสต์เกี่ยวกับการฉ้อโกงในการซื้อของหรือไม่ เก็บหลักฐานการโอนเงินไว้เสมอ สุดท้ายหากตกเป็นเหยื่อ ขอให้รีบโทรแจ้งศูนย์ AOC 1441