ปะทะเดือดหน้าโรงพัก! ญาติไรเดอร์เดือด พุ่งจิกผมพี่สาวกลุ่มผู้ก่อเหตุ ปมคำพูดสะเทือนใจ ก่อนครอบครัวผู้ก่อเหตุยอมกราบขอขมา
เมื่อเวลา 14.42 น. วันที่ 13 ม.ค.68 ที่สภ.เมืองนนทบุรี เกิดเหตุวุ่นวายระหว่างครอบครัวผู้เสียชีวิตและญาติของผู้ก่อเหตุ ขณะครอบครัวของนายเติ้ล ผู้ก่อเหตุ เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมอบตัวในคดีทำร้ายร่างกายที่นำไปสู่การเสียชีวิตของนายโอ๊ค หนุ่มไรเดอร์วัย 22 ปี
หลังจากการสอบปากคำเสร็จสิ้น ครอบครัวของนายเติ้ล นำโดย น.ส.ชดช้อย โต๊ะยีบอ อายุ 45 ปี แม่ของนายเติ้ล และน.ส.สร้อยวลี วรรณโสภา อายุ 37 ปี แม่นายฟัก ได้เดินลงมาจากห้องสอบสวนเพื่อสูบบุหรี่ ขณะที่เดินผ่านร้านกาแฟในโรงพักซึีงเป็นจุดที่ญาติของผู้เสียชีวิตกำลังนั่งอยู่ ด้านญาติของผู้เสียชีวิตได้ตะโกนถามถึงคำพูดก่อนหน้านี้ที่พี่สาวของนายเติ้ลเคยพูดว่า “ก็หลานมึงตายไปแล้ว” ซึ่งสร้างความไม่พอใจอย่างมาก พร้อมคิดว่าญาติผู้ก่อเหตุเดินผ่านเพื่อเป็นการเยาะเย้ยและไม่ยอมกล่าวขอโทษสักคำ จากนั้นน.ส.อั้ม อายุ 22 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต ซึ่งสวมเสื้อฮูดสีเทา ไม่สามารถระงับอารมณ์ได้ เดินเข้าไปจิกผมพี่สาวของนายเติ้ลจนเกิดเหตุชุลมุน ญาติทั้งสองฝ่ายพยายามเข้าห้ามปราม ขณะที่นายสมปอง อรุณลึก อายุ 60 ปี คุณตาของผู้เสียชีวิต เข้ากล่อมให้สงบสติอารมณ์
หลังเหตุการณ์สงบ น.ส.ชดช้อย แม่ของนายเติ้ล ได้เดินเข้ามากราบขอโทษนายสมปองทั้งน้ำตา พร้อมขอโทษที่ลูกสาวของเธอพูดจาไม่เหมาะสม โดยระบุว่าเธอเองไม่เคยสอนให้ลูกพูดเช่นนั้น แต่เพราะลูกสาวยังเป็นวัยรุ่น
นายสมปองเปิดเผยว่า การกระทำของครอบครัวผู้ก่อเหตุและคำพูดที่ว่า “คนตายไปแล้วจะให้ทำอะไรได้” ทำให้เขาและญาติไม่สามารถระงับความโกรธได้ เขาเล่าว่า ครอบครัวของเขาไม่เพียงสูญเสียโอ๊ค หลานชายที่รัก แต่ยังสูญเสียพ่อของเด็กที่ยังไม่ลืมตาดูโลก รวมถึงความฝันที่จะเห็นหลานชายได้บวชอีกด้วยในช่วงเดือนเมษายนนี้ ซึ่งตนได้เตรียมของไว้หมดแล้ว ตอนนี้คือ “เราเสียไปสามอย่าง ไม่มีคำขอโทษจากใจจริง พูดแบบนี้มันแรงเกินไป”
นายสมปอง ยังกล่าวว่า แม้จะโกรธ แต่ก็พยายามพูดคุยกับแม่ของผู้ก่อเหตุให้สงบลง และขอเพียงคำขอโทษจริงใจเพื่อยุติความบาดหมาง พร้อมทั้งกล่าวว่าเขาเข้าใจความผิดพลาดของวัยรุ่น แต่ต้องการให้ผู้ใหญ่ของครอบครัวอบรมลูกหลานให้รู้จักรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น หลังการพูดคุย เด็กวัยรุ่นในครอบครัวผู้ก่อเหตุได้มากราบขอโทษนายสมปอง โดยยอมรับว่าคำพูดที่หลุดออกไปนั้นรุนแรงเกินไป ตนอยากให้จบกันด้วยดี ตนต้องขอโทษด้วยที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทั้งที่รับปากผู้ใหญ่และตำรวจไว้ว่าจะไม่มีการกระทบกระทั่งกันอีก แต่ครั้งนี้ตนห้ามไม่ทัน
เรื่องนี้ตนต้องการให้เรื่องนี้จบลงในกระบวนการกฎหมาย และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงอีกครั้ง พร้อมแสดงความเสียใจต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้