"กัน จอมพลัง" และ"ทนายไพศาล" พาภรรยา "จ่าพั้นซ์" ทหารค่ายธนะรัชต์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกกต.ตร.โรงพักหัวหิน ยิงด้บหน้าผับดัง โร่ร้องขอความเป็นธรรมอัยการสูงสุด หวั่นถูกแทรกแซงสั่งคดีฟ้องต่อศาล
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ เมื่อเวลา 10.30 น. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ "กัน จอมพลัง" พร้อมด้วยนายไพศาล เรืองฤทธิ์ หรือทนายไพศาล ได้พา น.ส.บัวบูชา โรจน์ชนะภานิช ภรรยาของ จ.ส.อ.โรจชนะภณ โรจน์ชนะภานิช อายุ 31 ปี หรือ จ่าพั้นช์ นายสิบการข่าวกรมนักเรียนโรงเรียนทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่เสียชีวิตจากการถูกนายจักรกฤษ หรือเซ็น วรวงศ์พาณิชกุล อายุ 34 ปี เป็นคณะกรรมการที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.หัวหิน ใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตเหตุเกิดที่ ร้าน TINY Club ซอยหัวหิน 80 ถนนเพชรเกษม อ.เมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 18 ส.ค.2567 ที่ผ่านมา ไปร้องเรียนถึงอัยการสูงสุด เมื่อญาติผู้เสียชีวิตเกิดข้อสงสัยว่า มีการแทรกแซงคดีนี้ในชั้นอัยการหรือไม่
กัน จอมพลัง กล่าวว่าผู้ต้องหาได้ก่อเหตุยิง จ่าพั้นช์ ถึงแก่ความตาย ซึ่งสภ.หัวหิน ดำเนินการสอบสวนภายใน 1 เดือน และส่งสำนวนคดีไปยังอัยการ เมื่อถึงชั้นอัยการได้มีข้อความบางข้อความที่ครอบครัวเห็นแล้วรู้สึกไม่สบายใจ ที่ผ่านมาทางครอบครัว จ๋าพั้นช์ ไม่เคยได้รับคำขอโทษจากฝ่ายผู้ก่อเหตุแต่กลับมีข้อความปรากฏในทำนองว่า เจอจ่ายจบ ตนได้ประสานไปยัง นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน และนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย แนะนำว่าสามารถมายื่นร้องขอความเป็นธรรมได้ ตนจึงพาพ่อและครอบครัวสามี มายื่นคำร้องพร้อมแนบเอกสารข้อมูลที่ไม่สบายใจว่ามีความไม่ชอบมาพากลหรือไม่ อยากให้อัยการสูงสุดกำชับเรื่องนี้ให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เกรงว่าจะมีการกดดันแทรกแซงในการทำงานของอัยการหรือไม่ ยืนยันว่าจะติดตามดูคดีนี้จนถึงที่สุด ไม่ว่าจะอีกกี่ปีก็จะทำให้จบ
น.ส.บัวบูชาภรรยา จ่าพั้นช์ กล่าวว่า ตนได้ข้อความที่ติดใจมีเนื้อหาทำนองว่า จ่าพั้นซ์มีอาการมึนเมาเข้าไปลวนลามจับก้นแฟนของผู้ก่อเหตุ หลายครั้งทำให้โมโหมีปากเสียงกัน และมีการท้าทายชกต่อยกัน จากนั้นจ่าพั้นซ์ได้กระชากคอเสื้อ จึงบันดาลโทสะชักปืนออกมายิงจ่าพันช์" ตนติดใจตรงประโยคนี้มาก เหมือนกับแฟนตนเป็นคนผิดทั้งที่ไม่มีพยานหลักฐานแต่อย่างใด ขณะนี้ตัวผู้ก่อเหตุยังใช้ชีวิตตามปกติ ไม่มีการมาพูดคุย หรือมาเยียวยาแต่อย่างใด ตนไม่มีสามีอยู่แล้วขาดเสาหลักของบ้าน ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการสูงสุด
ทนายไพศาล กล่าวว่า การยื่นร้องขอความเป็นธรรมในวันนี้เป็นสิทธิ์ของผู้เสียหาย ไม่มีการก้าวล่วงอำนาจศาล การร้องครั้งนี้ต้องการทราบว่า มีการกดดันอัยการในคดี หรือไม่ โดยอัยการเจ้าของสำนวนได้พูดคุยกับผู้เสียหายต่อหน้าทนายความของตน โดยใช้คำว่ามีข้างบนสั่งมา ตนไม่ทราบความหมายว่าข้างบน นั้นหมายถึงใครอาจจะไม่ใช่สำนักงานอัยการสูงสุดก็ได้ ตนอยากมาทราบเหตุผล เรื่องคำสั่งให้สอบเพิ่มและการเพิ่มข้อหาบันดาลโทสะแก่จำเลย แล้วอยากทราบว่าใครที่เป็นคนสั่ง จึงมาร้องขอความเป็นธรรม ตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยคดีอาญา พ.ศ. 2563 มาตรา 65 ในฐานะทนายโจทก์ร่วม ตนรู้สึกสงสารเห็นใจครอบครัวสามีที่เสียชีวิต และเชื่อว่าอัยการในคดีนี้ให้ความเป็นธรรมสูงสุด คดีนี้มีข้อสงสัยมีข้อพิรุธอย่างไรหรือไม่ สำนวนที่ออกมาไม่ตรงกับข้อเท็จจริงหรือไม่
"มั่นใจว่าอัยการเจ้าของสำนวนให้ความเป็นธรรมยืนอยู่บนพยานหลักฐานอย่างแท้จริง แต่ตนแค่ตั้งข้อสงสัยว่า มีใครสั่งท่านหรือไม่ อย่างไร คดีนี้ผู้เสียชีวิตเป็นทหารก็อยากให้เกียรติกันหน่อย ตนทำคดีร่วมกับนายทหารพระธรรมนูญ ผู้บังคับบัญชาหน่วยของจ่าพั้นช์ก็ให้ดำเนินการเต็มที่ นี่ขนาดทหารตายยังโดนขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นประชาชนทั่วไปจะเป็นอย่างไร สุดท้ายตนและกัน จอมพลัง ก็จะเดินเรื่องนี้ไปจนถึงที่สุด" ทนายไพศาลกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องบันดาลโทสะ แต่ผู้ก่อเหตุได้พกพาอาวุธปืนเข้าไปในผับนั้นมีความย้อนแย้งกันหรือไม่ ทนายไพศาลกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ตนสงสัยเช่นกัน แต่ตนเป็นทนายความในคดีนี้ไม่ขอให้ความเห็นเรื่องนี้ได้ เนื่องจากคดีอยู่ในชั้นศาล แต่จะนำข้อสงสัยนี้ไปถามในชั้นศาลต่อไป