รวบเกย์หนุ่มเล่นแอปหาคู่ ขับรถข้ามจังหวัดมาเจอตัว แต่ติดต่อคู่ขาไม่ได้ เห็นกุญแจคาประตูบ้าน ไขเข้าไปขโมยของ

ตร.รวบเกย์แสบ ปัดแอปฯหาคู่นอน ขี่รถจยย.ข้ามจังหวัดมาหา ฉุนขาดติดต่อไม่ได้ คว้ากุญแจหน้าบ้านไขเข้าไปขโมยของ เสียหายนับแสน
เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 68 ที่ สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี พ.ต.อ.สมชาย แจ้งธรรมมา ผกก.สภ.บางศรีเมือง พ.ต.ท.เศรษฐหาญ เศรษฐภากรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางศรีเมือง พ.ต.ท.พงศ์นเรศ ศิริเสถียร สว.สส สภ.บางศรีเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล 7 ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายจิรเดช ห้องสวัสดิ์ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ จับกุมตัวได้ที่บ้านพักซอยฉิมพลี 19 แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม.

สืบเนื่องจากวันที่ 25 ธ.ค. 67 เวลา 06.30 น. นายจิรเดชฯ ได้ขับขี่รถจยย.เข้าไปในหมู่บ้านชื่อดังแห่งหนึ่ง ต.ไทรม้า อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เพื่อเข้าไปหาคู่ขา LGBTQ หรือนายเอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย ที่นัดหมายไว้ผ่านแอปพลิเคชั่นหาคู่ แต่เมื่อไปถึงนายจิรเดชฯ ไม่สามารถติดต่อนายเอได้ จึงเกิดอารมณ์โมโห ใช้ก้อนหินปาใส่หน้าต่างชั้น 2 และเอาน้ำฉีดใส่หน้าต่าง ก่อนจะเจอกุญแจบ้านในรองเท้าและไขเข้าบ้านไปในบ้านของนายเอเพื่อก่อเหตุขโมยของภายในบ้าน คือ 1. ลำโพงบลูทูธ Fender ราคา 19,000 บาท 2. กระเป๋ายี่ห้อ Viven Westwood 33,000 บาท 3.กระเป๋าสตางค์ยี่ห้อ Louis Vuitton ราคา 19,000 บาท พร้อมเงินในกระเป๋า 150 ดอลล่าสิงคโปร์ 4.กล้องวงจรปิด 1 ตัว 5.นาฬิกาข้อมือ หลังจากนั้นนายจิรเดชฯ ได้รีบขับขี่รถจยย.ออกไปในเวลา 08.55 น. โดยภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพได้ที่บริเวณป้อมยามหน้าหมู่บ้าน

ภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุม บริเวณสามแยกในหมู่บ้าน วันที่ 25 ธ.ค. 67 เวลาประมาณ 06.30 น. จับภาพผู้ก่อเหตุได้ขับขี่รถจยย.เข้าไปในหมู่บ้านชื่อดังแห่งหนึ่ง และใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อโทรหาผู้เสียหาย ระหว่างนั้นได้วนรถไปมาตรงสามแยกในหมู่บ้าน ก่อนจะจอดรถจยย.และเดินเอาโทรศัพท์มือถือไปถามหาผู้เสียหายกับเพื่อนบ้าน และขับขี่รถจยย.ออกไป

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาคือ ลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือ โดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม

จากการสอบถามนายจิรเดชฯ เล่าว่า ตนได้เล่นแอปหาคู่เจอกับนายเอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย ในวันที่ 25 ธ.ค. 67 เวลาประมาณ 05.00 น. ได้มีการพูดคุยกันและนัดเจอกันว่าให้ตนไปหาที่บ้าน แถวท่าอิฐ จ.นนทบุรี ซึ่งนายเอเป็นคนส่งพิกัดบ้านให้ตนรีบไปหา และบอกว่ากินเบียร์อยู่ พอตนไปถึงบ้าน โทรหานายเอไม่รับสาย และทักไปไม่ตอบ ซึ่งนายเอก็ไม่ลงมารับ ตนพยายามเอาหินปาใส่กระจก และเอาสายยางฉีดน้ำฉีดขึ้นไป นายเอก็ไม่ตื่น ซึ่งถ้าเขาตื่นมาเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นแน่นอน ตนได้ขโมยเอากระเป๋า ลำโพงบลูทูธ นาฬิกา และหน้ากากตั้งโชว์ หลังจากที่ตนเอาของไปได้จึงนำไปขายและนำเงินไปเสพยา เป็นอารมณ์โมโหที่ตนปลุกนายเอไม่ได้ จึงตัดสินใจทำเพื่อความสะใจ หลังจากก่อเหตุไปแล้วมีบ้านตรงข้ามถ่ายรูปตนขณะก่อเหตุ ตนจึงรีบออกไปคุยกับรปภ.ตามที่เห็นในคลิปวงจรปิด แต่ตนยังไม่ได้คุยกับนายเอ อยากจะขอโทษ ถ้าวันนั้นตื่นจะไม่เกิดเรื่องนี้ ตนทำเพราะหมันไส้และแก้เผ็ด เจ็บใจที่รอนาน แต่ตนก็ผิดด้วยที่อยากได้ของเขา ตนก็พยายามรอแล้ว ทำทุกอย่างก็ไม่ตื่น และตนมาไกลด้วย ตนก็จะมามีอะไรกับเขาแต่ก็จบเพราะเขาไม่ตื่น

พ.ต.ท.พงศ์นเรศ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้สืบสวนสอบสวนจนทราบตัวผู้ต้องหา และมีการขอหมายจับในข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน ทำลายสิ่งกีดกั้นซึ่งพฤติกรรมของผู้ต้องหาคือเขารู้จักกับผู้เสียหายผ่านแอปพลิเคชั่นหาคู่ และมีการนัดไปเจอกันที่บ้านผู้เสียหาย หลังจากนั้นผู้ต้องหาไปที่บ้านดังกล่าว แต่ผู้เสียหายไม่ลงมาเปิดประตูให้ จึงหยิบกุญแจที่วางไว้หน้าบ้านไขเข้าไปลักทรัพย์ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่ความผิด โดยพาทรัพย์นั้นไป ได้มีการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหามีคดีเก่า คือ 1.เคยถูกจับเสพยาเสพติดเมื่อปี 2559 2.คดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืนและบุกรุกเมื่อปี 2567 และล่าสุดคือคดีนี้ ในการจับตัวผู้ต้องหาครั้งนี้ร่วมกันจับกุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล 7 ที่เข้าไปจับตัวผู้ต้องหาที่บ้านแถวตลิ่งชัน